สภาความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ ประกาศภายหลังการประชุมในเช้าวันอาทิตย์ (9 มิถุนายน) ว่า รัฐบาลจะเริ่มเปิดเครื่องกระจายเสียงตามแนวพรมแดน เพื่อโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านเกาหลีเหนือ หลังจากระงับไปตามข้อตกลงทางทหารเพื่อคลายความขัดแย้งที่ลงนามในปี 2561
และกองทัพเผยภาพการประกอบและติดตั้งเครื่องกระจายเสียง รวมถึงการตรวจสอบสัญญาณกระจายเสียง และการฝึกซ้อมการใช้งาน แต่ไม่ได้ระบุวันเวลาและสถานที่
เกาหลีใต้เคยมีเครื่องกระจายเสียง ซึ่งสามารถส่งเสียงได้ไกล 10 กม. ช่วงกลางวันและไกล 24 กม. ช่วงกลางคืน ถูกติดตั้งถาวรอยู่ใน 10 จุด ที่บริเวณด่านหน้า และมีเครื่องกระจายเสียงที่เคลื่อนที่ได้อีกเกือบ 40 เครื่อง ซึ่งกระจายเสียงได้ไกลกว่า แต่เครื่องกระจายเสียงแบบติดตั้งถาวรถูกทำลายภายใต้ข้อตกลงปี 2561
การตัดสินใจเปิดเครื่องกระจายเสียงอีกครั้ง มีขึ้นหลังจากเกาหลีใต้ตรวจจับได้ว่า มีลูกโป่งราว 330 ลูก ถูกปล่อยข้ามพรมแดนมาจากเกาหลีเหนือในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ โดยเกือบ 80 ลูก ตกลงในดินแดนเกาหลีใต้ ลูกโป่งเหล่านี้ผูกกับถุงที่บรรจุเศษกระดาษและแผ่นพลาสติก
เกาหลีเหนือปล่อยลูกโป่งขยะข้ามพรมแดนครั้งใหม่ เพื่อตอบโต้ที่นักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ปล่อยลูกโป่งที่ผูกกับถุงบรรจุใบปลิว ที่วิจารณ์รัฐบาลเกาหลีเหนือรวม 10 ลูก เข้าไปในฝั่งเกาหลีเหนือเมื่อวันศุกร์
เดิมเกาหลีเหนืออ้างว่า ปล่อยลูกโป่งขยะเข้าไปในเกาหลีใต้ 3,500 ลูก ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนนี้ เพื่อตอบโต้การโปรยใบปลิวด้วยลูกโป่งจากฝั่งเกาหลีใต้ แต่เกาหลีใต้ ระบุว่า มีลูกโป่งขยะจากเกาหลีเหนือข้ามพรมแดนเกือบ 1,000 ลูก
ความขัดแย้งเรื่องการปล่อยลูกโป่งโปรยใบปลิวโดยนักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้และชาวเกาหลีเหนือแปรพักต์ ที่อยู่ในเกาหลีใต้ ยืดเยื้อมานานหลายปีแล้ว โดยใบปลิวมีเนื้อหากระตุ้นให้ชาวเกาหลีเหนือลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาล และสองฝ่ายเคยยิงปืนกลตอบโต้กันข้ามพรมแดนในปี 2557 หลังเกาหลีเหนือพยายามยิงลูกโป่ง ที่ถูกส่งลอยข้ามพรมแดน ต่อมาสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกาหลีใต้ผ่านกฎหมายในเดือนธันวาคม 2563 ที่กำหนดให้การโปรยใบผลิวต่อต้านเกาหลีเหนือเป็นความผิดทางอาญา