อิสราเอลเดินหน้าทำสงครามต่อ แม้ทั่วโลกรุมประณาม

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวในรัฐสภาอิสราเอลว่า เขาไม่มีความตั้งใจที่จะยุติสงคราม จนกว่าจะบรรลุทุกเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเป้าหมายหลักคือการกำจัดกลุ่มฮามาสไม่ให้เป็นภัยต่อชาวอิสราเอลได้อีก ท่ามกลางเสียงประณามจากนานาชาติและองค์กรระหว่างประเทศ ทั้งสหประชาชาติ สหภาพยุโรป สหรัฐฯ ฝรั่งเศส กาตาร์ สเปน ไอร์แลนด์ และนอร์เวย์ ต่อการโจมตีทางอากาศที่คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์จำนวนมาก

นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ได้กล่าวถึงเหตุการโจมตีดังกล่าว ที่สามารถสังหารผู้นำระดับสูงของฮามาสได้ 2 คน แต่ก็แลกกับการคร่าชีวิตพลเรือนในเขตปลอดภัยอย่างน้อย 45 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน โดยระบุว่า การโจมตีดังกล่าวถือเป็น “อุบัติเหตุที่น่าสลดใจ” ซึ่งหลังจากนี้อิสราเอลจะเพิ่มความระมัดระวังในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อปกป้องพลเรือน และยืนยันว่ากองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลได้ใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ที่จะไม่ทำร้ายผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง

ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำลังจะจัดการประชุมฉุกเฉิน เพื่อหารือเกี่ยวกับการโจมตีในราฟาห์ หลังถ้อยแถลงของอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวได้สังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ที่กำลังมองหาที่พักพิงจากความขัดแย้งที่รุนแรงนี้ แต่กลับไม่มีที่ใดปลอดภัยในฉนวนกาซา และเหตุการณ์สะเทือนขวัญแบบนี้ควรต้องยุติลงเสียที

ด้านองค์การแพทย์ไร้พรมแดน หรือ MSF ออกมาโต้แย้งต่อข้อมูลของอิสราเอล ที่ยืนยันว่าเป้าหมายในการโจมตีทางอากาศใส่ฐานปฏิบัติการของฮามาสครั้งล่าสุดมีความถูกต้องและแม่นยำ โดยระบุว่า การโจมตีค่ายพังพิงที่มีประชากรอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า 'เขตปลอดภัย' ในราฟาห์ แสดงให้เห็นถึงการไม่คำนึงถึงชีวิตของพลเรือนในฉนวนกาซาโดยสิ้นเชิง

แม้แต่ครอบครัวของตัวประกันก็เริ่มแสดงความไม่พอใจและวิพากษ์วิจารณ์ต่อผู้นำของพวกเขาอย่างหนักว่า "ล้มเหลว" ในการช่วยเหลือชาวอิสราเอลกลับบ้าน 

อย่างไรก็ตาม ทางด้านสหรัฐฯ ที่แม้จะออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการโจมตีที่น่าสะเทือนใจ แต่ก็ยืนยันว่าอิสราเอลมีสิทธิ์ที่จะปกป้องตนเอง และการโจมตีดังกล่าวได้สังหารผู้ก่อการร้ายอาวุโสกลุ่มฮามาส 2 คน ซึ่งมีส่วนต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีพลเรือนอิสราเอล ทั้งนี้สหรัฐฯ ขอเรียกร้องให้อิสราเอลทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อปกป้องพลเรือนอย่างจริงจัง