กองทัพรัสเซียจัดพิธีสวนสนามประจำปีกลางจตุรัสแดงในกรุงมอสโกในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม ในโอกาสครบรอบ 79 ปี ที่กองทัพสหภาพโซเวียตมีชัยชนะเหนือกองทัพนาซีของเยอรมนี โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน พร้อมด้วยประธานาธิบดีจากคาซัคสถาน ลาว กินีบิสเซา ทาจิกิสถาน คีร์กิซสถาน เบลารุส เติร์กเมนิสถาน และคิวบาร่วมชมพิธีสวนสนาม ท่ามกลางหิมะตกและสภาพอากาศหนาวเย็นอย่างผิดปกติขณะที่กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยด้วยว่า ประเทศที่ไม่เป็นมิตรกับรัสเซียไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมชมพิธีสวนสนาม
พิธีสวนสนามที่กรุงมอสโกในปีนี้มีทหารกว่า 9,000 นาย และยุทโธปกรณ์ 70 รายการร่วมจัดแสดงในขบวน และเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหม ร่วมตรวจแถวทหารบนรถเปิดประทุน นอกจากนี้ทหารที่รบในยูเครนเกือบ 1,000 นาย และระบบยิงขีปนาวุธที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์อยู่ในขบวนสวนสนามด้วย แต่ปีนี้มีการแสดงรถถังและยานเกราะในขบวนน้อยกว่าช่วงก่อนเริ่มเปิดฉากสงครามในยูเครน นอกจากนี้อีกหลายเมืองทั่วรัสเซียจะมีการสวนสนามที่มีทหารเข้าร่วมราว 150,000 นาย และการแสดงอาวุธและยุทโธปกรณ์ราว 2,500 รายการ
ประธานาธิบดีปูติน ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ประกาศต่อหน้าเหล่าทหารว่า รัสเซียจะทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในโลก แต่จะไม่ยอมให้ใครคุกคาม และกองกำลังนิวเคลียร์ยุทธศาสตร์ของรัสเซียอยู่ในขั้นเตรียมพร้อมสู้รบอยู่เสมอ
พิธีสวนสนามในปีนี้มีขึ้นในขณะที่กองทัพรัสเซียรุกคืบอย่างมากในภาคตะวันออกของยูเครน และคาดว่าอาจมีปฏิบัติการครั้งใหญ่ในช่วงต้นฤดูร้อน นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมรัสซียแถลงในวันพุธอ้างว่า ทหารสามารถยึดหมู่บ้าน 2 แห่ง ในแคว้นโดเนตสก์ และแคว้นคาร์คีฟ
เมื่อวันจันทร์ประธานาธิบดีปูตินสั่งให้กองทัพเตรียมจัดการฝึกซ้อมประจำการอาวุธนิวเคลียร์ยุทธวิธี โดยกระทรวงกลาโหม บอกว่า เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมทางทหารเพื่อรับมือภัยคุกคามจากชาติตะวันตก หลังจากมีถ้อยคำยั่วยุและข่มขู่จากเจ้าหน้าที่ของชาติตะวันตกต่อรัสเซียในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน