"ขณะที่เราต้องเตรียมพร้อมที่จะทำให้บริษัทเติบโตในระยะต่อไป สิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณา คือการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต จึงมีการตรวจสอบองค์กรอย่างละเอียด และตัดสินใจอย่างยากลำบากที่จะลดจำนวนพนักงานของเราลงมากกว่า 10%"
นี่คือส่วนหนึ่งของข้อความจากบันทึกของมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ ในฐานะซีอีโอของ Tesla ที่ถึงพนักงานทุกคน เพื่อแจ้งเรื่องการเตรียมสั่งปลดพนักงานทั่วโลกมากกว่า 10%
โดยหุ้นของ Tesla ปิดตัวลงมากกว่า 5% ในวันจันทร์ และร่วงลงถึง 31% ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
แม้ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้ายังคงได้รับความนิยมทั่วโลก แต่อัตราการเติบโตของยอดขายก็ชะลอตัวลง โดยเฉพาะเมื่อบริษัทต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นกว่าเดิมในสมรภูมิรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความสนใจ
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Tesla รายงานการส่งมอบรถยนต์ประจำปีลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 โดยการส่งมอบในไตรมาสแรกลดลง 8.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เหลือ 386,810 คันในไตรมาสแรก แม้ว่าจะมีส่วนลดและสิ่งจูงใจให้กับลูกค้าตลอดทั้งไตรมาสก็ตาม
ขณะที่โรงงานผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ Tesla ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศจีน ถูกมองว่าอาจได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการประกาศเลิกจ้างพนักงานครั้งนี้ เนื่องจาก Tesla กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะคู่แข่งอย่าง BYD ที่เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว