คลิปที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้ได้เผยให้เห็นตำรวจและชายจำนวนหนึ่งช่วยกันกดตัวหนุ่มวัย 15 ปีไว้กับพื้น ภายหลังเขาก่อเหตุใช้มีดแทงบิชอพและบาทหลวงได้รับบาดเจ็บ ขณะมีการไลฟ์สดการเทศนาภายในโบสถ์ไครสต์ เดอะ กู๊ด เชพเพิร์ด ในย่านเวคลีย์ของนครซิดนีย์ เมื่อค่ำวันจันทร์
ตำรวจควบคุมตัวเขาไว้ในโบสถ์เพื่อความปลอดภัย หลังจากฝูงชนที่โกรธแค้นหลายร้อยคนรวมตัวอยู่ด้านนอกนานกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อกดดันให้ตำรวจส่งตัวผู้ก่อเหตุให้พวกเขา โดยเกิดการปะทะขว้างปาก้อนอิฐและขวดน้ำใส่ตำรวจ ต่อมาผู้ก่อเหตุถูกนำตัวออกจากโบสถ์ได้ หลังมีกำลังเสริมจากตำรวจกว่า 100 นายถูกส่งไปที่โบสถ์
มีรายงานว่า เหตุจลาจลดังกล่าวทำให้มีผู้บาดเจ็บราว 30 คน และตำรวจ 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งรถตำรวจ 10 คัน ได้รับความเสียหาย ส่วนหนุ่มผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บและต้องผ่าตัดที่นิ้วมือด้วย แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่า เขาได้รับบาดเจ็บจากปืนของตัวเอง หรือ เกิดขึ้นจากการถูกกลุ่มคนรุมเข้าจับตัวเขา
คาเรน เวบบ์ ผู้บังคับการตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ แถลงในวันอังคารว่า การก่อเหตุของหนุ่มรายนี้มีการไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะจุดเกิดเหตุไม่ได้อยู่ใกล้ละแวกบ้าน เขาเดินทางไปที่โบสถ์พร้อมกับมีด และก่อเหตุแทงบิชอพและบาทหลวง จึงเชื่อได้ว่า มีเหตุจูงใจทางศาสนา และประกาศว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้าย แต่ไม่ได้ระบุศาสนาที่ผู้ก่อเหตุนับถือ
นอกจากนี้สำนักงานข่าวกรองความมั่นคง และสำนักงานตำรวจออสเตรเลีย จะร่วมกับตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์สอบสวนว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่ แต่เบื้องต้นเชื่อว่า ก่อเหตุโดยลำพัง และยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับระดับการเตือนภัยก่อการร้าย
นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีส ประชุมฉุกเฉินร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง และประกาศว่า จะไม่ยอมให้มีพวกแนวคิดสุดโต่งหัวรุนแรงในประเทศ ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ประชาชนอย่าใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย
เหตุแทงคนที่โบสถ์เกิดขึ้นเพียง 2 วัน หลังจากชายคนหนึ่งใช้มีดแทงคนเสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บ 12 ราย กลางห้างสรรพสินค้าในย่านบอนได จังก์ชัน ของนครซิดนีย์เมื่อบ่ายวันเสาร์ ก่อนถูกตำรวจยิงเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายพุ่งเป้าผู้หญิง โดยผู้เสียชีวิตมากถึง 5 ราย เป็นผู้หญิง