รัฐบาลเกาหลีใต้เสียอำนาจ หลังฝ่ายค้านชนะเลือกตั้งถล่มทลาย

ผลการเลือกตั้งทั่วไปของเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา พรรคประชาธิปไตย (DP) และพรรคฝ่ายค้านเล็ก ๆ ได้คว้าชัยชนะร่วมกัน ครอบครองเสียงข้างมากในรัฐสภาจำนวน 192 ที่นั่ง จากทั้งหมด 300 ที่นั่ง และทำให้พรรคพลังประชาชน (PPP) ของประธานาธิบดียุน ซอกยอล ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลต้องพบกับความพ่ายแพ้

แม้จะเป็นเพียงการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าไปนั่งในรัฐสภา แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการประชามติกลางภาคต่อประธานาธิบดียุน ซอกยอล ว่าผลงานที่ผ่านมาของเขาสามารถทำให้ประชาชนพึงพอใจได้หรือไม่

• ทำไมพรรครัฐบาลถึงพ่ายแพ้

แม้จะได้รับเสียงชื่นชมจากการดำเนินนโยบายการต่างประเทศ ที่ทำให้เกาหลีใต้มีบทบาทในเวทีโลกมากขึ้น แต่ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ก็ถูกต่อว่ามาโดยตลอดว่าไม่ใส่ใจปากท้องของประชาชน และตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทั้งรวมถึงราคาอาหารที่สูงขึ้น จำนวนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และการนัดหยุดงานของบุคลากรทางการแพทย์ ไม่กี่สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้ง เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าละเลยต่อผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

เมื่อเดือนที่แล้ว เขายังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการแสดงความคิดเห็นระหว่างเยือนซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในกรุงโซลว่า หัวหอมใหญ่ที่มีราคา 875 วอน (23 บาท) นั้น "สมเหตุสมผล" ขณะที่ราคาดังกล่าวคือส่วนลดสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม และราคาปกติอยู่ที่ 3,000 - 4,000 วอน (80 - 100 บาท) ทำให้บรรดาเกษตรกรรู้สึกไม่พอใจจนออกมาชุมนุมประท้วงโดยใช้หัวหอมเป็นสัญลักษณ์

ก่อนวันเลือกตั้งไม่นาน คิม กอนฮี ภรรยาของยุน ซอกยอล ในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง กลับมีข่าวฉาวหลังถูกกล่าวหาว่ารับของขวัญสินบนเป็นกระเป๋าหรูราคาแพง

• ทิศทางการเมืองเกาหลีใต้หลังจากนี้

หลังประสบกับความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ นอกจากจะต้องยอมรับในคะแนนนิยมที่ตกต่ำลงแล้ว ประธานาธิบดียุนและพรรครัฐบาลของเขายังต้องเผชิญกับภาวะไร้อำนาจในรัฐสภา ที่อาจส่งผลให้รัฐบาลเกาหลีใต้ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือผลักดันนโยบายใด ๆ ได้ไปตลอดวาระการดำรงตำแหน่งที่เหลืออีก 3 ปี ของประธานาธิบดี

ขณะที่พรรคฝ่ายค้านทั้งพรรคประชาธิปไตย (DP) และพรรคเล็กอย่างพรรคสร้างเกาหลี (RKP) ที่เพิ่งก่อตั้งก่อนการเลือกตั้งราว 1 เดือน ต่างมีแนวโน้มที่จะหาทางยุติการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของยุน ซอกยอล หรือบีบให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่ง

ที่น่าสนใจคือการกลับมาของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โช กุก ที่เคยสูญเสียชื่อเสียงทางสังคม หลังเผชิญคดีอื้อฉาวในการปลอมแปลงเอกสารวิชาการเพื่อส่งลูกสาวเข้าเรียนในโรงเรียนแพทย์  ก่อนที่เขาจะต้องตกงานในตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ภรรยาของเขาถูกสั่งจำคุกและลูกสาวถูกยึดใบอนุญาตทางการแพทย์ 

แต่เมื่อโชกลับมาก่อตั้งพรรคสร้างเกาหลี (RKP) เพื่อลงเลือกตั้งอีกครั้ง และชูเป้าหมายทางการเมืองที่มุ่งมั่นจะกำจัดประธานาธิดียุน ซอกยอล เขากลับได้รับคะแนนเสียงเป็นจำนวนมากพอที่จะบอกได้ว่า ประชาชนเกาหลีใต้ยอมเลือกผู้ที่มีประวัติมัวหมอง เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่พอใจต่อประธานาธิบดีคนปัจจุบันมากเพียงใด

นอกจากนี้ ชัยชนะของฝ่ายค้านยังถือเป็นการผลักดัน อี แจ-มยอง ผู้นำพรรคประชาธิปไตย (DP) ที่เคยพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีให้กับยุนเมื่อปี 2565 ด้วยคะแนนที่ค่อนข้างสูสี ให้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง และถูกมองว่ามีโอกาสสูงมากที่จะได้รับชัยชนะ

อย่างไรก็ตามประธานาธิบดียุน ซอกยอล ยังคงให้คำมั่นว่าจะปฏิรูปกิจการของรัฐเพื่อสะท้อนเจตจำนงของประชาชน ภายหลังพรรครัฐบาลพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในการเลือกตั้งรัฐสภา