Apple ถูกสหรัฐฯ ฟ้องข้อหาผูกขาด ทำสมาร์ทโฟนราคาแพง

“ผู้บริโภคไม่ควรต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น เนื่องจากบริษัทต่างๆ ฝ่าฝืนกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีใครทักท้วง Apple จะยังคงเสริมสร้างการผูกขาดสมาร์ทโฟนของตนต่อไป”

กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ และอีก 15 รัฐได้ยื่นฟ้อง Apple กล่าวหาว่า Apple ใช้การกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคและสร้างข้อจำกัดการใช้งานให้กับผลิตภัณฑ์อย่าง iPhone และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อสินค้าของผู้ผลิตรายย่อยที่มีราคาถูกกว่าได้ยาก ทั้งยังผลักดันให้สินค้าของตนเองมีราคาสูงขึ้น

คำฟ้องยังระบุด้วยว่าการกระทำดังกล่าว ทำให้ Apple กวาดรายได้หลายแสนล้านดอลลาร์ กลายเป็นหนึ่งในบริษัทมี่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก หลังจากหลบหนีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของรัฐบาลสหรัฐฯ มาเป็นเวลาเกือบครึ่งศตวรรษ

“ผู้บริโภคไม่ควรต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น เนื่องจากบริษัทต่างๆ ฝ่าฝืนกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีใครทักท้วง Apple จะยังคงเสริมสร้างการผูกขาดสมาร์ทโฟนของตนต่อไป” อัยการสูงสุด เมอร์ริก การ์แลนด์ กล่าวในแถลงการณ์

ข่าวการฟ้องร้องส่งผลให้หุ้น Apple ลดลงมากถึง 4.3% ใน Wall Street เมื่อวันพฤหัสบดี

กระทรวงยุติธรรมยังระบุเพิ่มเติมว่า Apple ได้ใช้อำนาจทางการตลาดของตนเพื่อเรียกเก็บเงินจำนวนมากขึ้น จากทั้งผู้บริโภค นักพัฒนาแอปพลิเคชั่น นักสร้างคอนเทนต์  ศิลปิน ผู้จัดพิมพ์ และธุรกิจที่ต้องการมีส่วนร่วมในตลาดสมาร์ทโฟน

สหรัฐฯ ยังกล่าวหาว่า Apple ใช้วิธีการทำให้แอปพลิเคชั่นของบริษัทคู่แข่ง ไม่สามารถใช้งานบนอุปกรณ์ของตนเองได้อย่างราบรื่น เพื่อจำกัดทางเลือกของผู้บริโภค หรือบีบให้นักพัฒนาต้องชำระเงินเพื่อให้แอปพลิเคชั่นของตนได้เผยแพร่ผ่าน “App Store” หนึ่งในบริการที่ทำกำไรได้มากที่สุดของ Apple ซึ่งเรียกเก็บค่าคอมมิชชันของนักพัฒนามากถึง 30 เปอร์เซ็นต์