ผู้ประท้วงอิสราเอลขวางขบวนรถบรรเทาทุกข์-ชาวปาเลสไตน์ต้องกินหญ้า

สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ได้ลุกลามไปสู่พลเรือนแล้ว เมื่อผู้ประท้วงชาวอิสราเอลโดยการนำของขบวนการ "ซาฟ ไนน์" (Tsav 9) หรือ "คำสั่งที่ 9" (Order 9) เดินทางทุ่งหญ้าเพื่อหลีกเลี่ยงการขัดขวางของตำรวจ และหวังจะรบกวนการขนส่งอาหารและสิ่งบรรเทาทุกข์เข้าไปในกาซา ซึ่งมีรายงานว่าเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดนของอิสราเอล ได้ปล่อยให้ผู้ประท้วงขัดขวางขบวนรถบรรเทาทุกข์ที่เข้าไปในคาเรม ชาลอม ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนแห่งเดียวที่ติดกับฉนวนกาซา แต่หลังจากถูกกดดันและเสียงประณามจากนานาชาติเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทางการอิสราเอลได้ประกาศว่าจะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมจุดผ่านแดน แต่แม้จะประกาศเป็นเขตปิดของทหารแต่ก็ไม่สามารถยับยั้งผู้ประท้วงได้ 

การใช้ชื่อ "คำสั่งที่ 9" เป็นการอ้างอิงถึงประกาศระดมพลฉุกเฉินในการเรียกทหารกองหนุน และเป็นการรวมกลุ่มของทหารกองหนุนที่ปลดประจำการแล้ว ครอบครัวของตัวประกันและผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิว ซึ่งบอกว่ากลัวว่าความช่วยเหลือจะไปอยู่ในมือกลุ่มติดอาวุธของฮามาส ที่ยังควบคุมเพื่อนและครอบครัวของพวกเขา หลังบุกเข้าไปสังหารชาวอิสราเอล 1,200 คน เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2566 ซึ่งพวกเขาหวังว่าการสกัดกั้นอาหารและสิ่งบรรเทาทุกข์เข้าไปในกาซา จะบีบให้ฮามาสยอมปล่อยตัวประกัน จากผลสำรวจล่าสุดที่จัดทำโดยสถาบันประชาธิปไตยอิสราเอลชี้ว่า ชาวยิว 2 ใน 3 สนับสนุนการประท้วงรูปแบบนี้

เหตุการณ์นี้มีขึ้นในขณะที่มีรายงานว่า ชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ทางเหนือของกาซาต้องใช้หญ้าและอาหารสัตว์ประทังชีวิต เพราะอยู่ในจุดที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เข้าไม่ถึงทรัพยากรอาหาร ส่วนตอนใต้แม้จะเข้าถึงปัจจัยด้านมนุษยธรรมมากกว่า แต่ก็มีเด็ก 16 คน คลอดก่อนกำหนดและเสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับการขาดสารอาหาร โดยกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ระบุว่า ภาวะขาดสารอาหารทำให้คนเสียชีวิตลงอย่างช้า ๆ โดยเด็กและคนชราจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบก่อน พวกแม่ที่ไม่ได้รับอาหารอย่างเพียงพอก็ไม่สามารถผลิตน้ำนมเลี้ยงลูกได้ การโจมตีของอิสราเอลทำให้ผู้คนหลายแสนต้องอาศัยในซากปรักหักพัง และเข้าไม่ถึงอาหารจำพวกเนื้อ นม ผักและผลไม้ ส่วนอาหารที่มีขายอย่างขนม เครื่องเทศ หรือผลไม้ก็มีราคาสูงมาก