จุดจบที่เลือกได้ 5 วิธี "จากโลกนี้ไป" แบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เรื่องของ "ความเป็นความตาย" เป็นเรื่องที่เราไม่ค่อยอยากจะเอามาพูดกันสักเท่าไหร่ แต่ในยุคนี้ผู้คนเริ่มมีแนวคิดในการวางแผนล่วงหน้า เพื่อที่ว่าหากวันหนึ่งเราจากโลกใบนี้ไปจริง ๆ ร่างกายของเรายังสามารถสร้างประโยชน์ต่อธรรมชาติได้

ปกติเวลาที่คนเราเสียชีวิต จะมีวิธีจัดการศพที่นิยมกันอยู่ 2 แบบ คือ "เผา" กับ "ฝัง" ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมความเชื่อส่วนบุคคล แต่ตามหลักวิทยาศาสตร์กลับพบว่าทั้ง 2 วิธี มีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมทั้งคู่ เช่น การเผาจะมีการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ส่งผลเสียต่อคุณภาพอากาศ ส่วนการฝังในประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ก็จะมีการใช้สารเคมีดองศพเพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ซึ่งสารเคมีอาจถูกดูดซึมเป็นมลพิษต่อธรรมชาติ

ทั้งนี้ไม่ได้หมวยความว่าการเผาหรือฝังศพตามความเชื่อเป็นเรื่องผิด แต่ในเมื่อเราอยู่ในยุคที่มีทางเลือกหลากหลายมากขึ้น ก็อยากจะชวนมาทำความรู้จักกับ 5 วิธี จากโลกใบนี้อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

1. การเผาศพด้วยน้ำ 

เป็นวิธีที่กำลังได้รับความสนใจและมีกฎหมายรองรับแล้วในบางประเทศ แม้จะเรียกว่าการเผา แต่จริง ๆ แล้วมันคือกระบวนการ "อัลคาไลน์ไฮโดรไลซิส" โดยการนำศพไปใส่ในน้ำที่มีส่วนผสมของอัลคาไลน์ ซึ่งมีแรงดันและอุณหภูมิที่สูงพอจะละลายร่างกายภายของมนุษย์ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เหลือเพียงกระดูกที่สามารถนำไปแปรรูปเป็นเถ้าใส่ไว้ในโกศได้ วิธีนี้ผ่านการรับรองโดยองค์การอนามัยโลกแล้วว่าไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน

2. การฝังตามธรรมชาติ

แทนที่จะฝังศพในสุสานที่มีแต่พื้นหญ้าพื้นปูน ก็นำศพไปฝังในพื้นที่ที่สามารถย่อยสลายแล้วเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้โดยรอบได้โดยหลาย ๆ ประเทศมีการจัดสรรพื้นที่ไว้ให้โดยเฉพาะ ส่วนใหญ่จะมีกฎที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่น "ห้ามมีป้ายหลุมศพ" เพื่อที่จะได้ไม่เป็นการรบกวนธรรมชาติ 

นอกจากนี้ก็ยังมีการฝังแบบพิเศษ เช่น การนำศพใส่แคปซูลชีวภาพ นำไปฝังดินพร้อมกับต้นกล้า เพื่อให้ร่างกายเรากลายเป็นปุ๋ยให้กับต้นกล้านั้นได้เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ในอนาคต

หรือการสวมชุด Jumpsuit ที่ผสมสปอร์ของเห็ด และมีการผลิตขึ้นมาแล้วจริง ๆ ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่ง Jumpsuit กับสปอร์เห็ด จะช่วยทำหน้าที่ส่งสารอาหารจากร่างกายของเรา ไปยังรากพืชที่อยู่รอบ ๆ

3. กลายเป็นปะการัง

โดยปกติหากมีการทำพิธีเผาศพ ญาติมักจะนำเถ้าไปลอยอังคารหรือเก็บใส่โกศไว้ แต่เราสามารถน้ำเถ้านี้ไปเปลี่ยนให้เป็นประโยชน์ต่อท้องทะเลได้ ด้วยการนำเถ้าไปผสมกับคอนกรีตชนิดพิเศษเพื่อสร้างแนวปะการังเทียม ให้โอกาสสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลได้มีพื้นที่อยู่อาศัยมากขึ้น

4. เป็นอาหารสัตว์โลก

วิธีนี้ดูแล้วอาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่ แต่เป็นวิธีที่มีการปฏิบัติจริงในแถบทิเบต โดยการนำศพไปเก็บยังพื้นที่เฉพาะ ซึ่งจะมีนกแร้งเข้ามาจัดการกินเนื้อ และคนแถบนั้นมีความเชื่อว่าเป็นการนำชีวิตของเรากลับคืนสู่โลก เพื่อจะไปสู่ภพหน้าโดยที่ร่างกายไม่ถูกรั้งเอาไว้ และแน่นอนว่าวิธีนี้ไม่น่าจะถูกกฎหมายในหลายประเทศ...

5. ปรับเปลี่ยนจากวิธีเดิมก็พอแล้ว

หากใครยังสะดวกใจเผาหรือฝังแบบเดิม ๆ ก็ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นได้เช่นกัน เช่น ลดการใช้สารเคมีดองศพ ใช้ผ้าห่อศพจากเส้นใยธรรมชาติ และฝังศพในหลุมตื้น ๆ เพื่อให้ย่อยสลายได้ง่าย หรือหากต้องไปร่วมงานศพ ก็ใช้วิธีไปทางเดียวกันรถคันเดียวกันลดการใช้น้ำมัน เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่าที่ทำไหวก็เพียงพอแล้ว