svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

อิสราเอลอ้างหลักฐาน "ฮามาส" เสพยากระตุ้นการสังหารอย่างเลือดเย็น

25 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทางการอิสราเอลพบหลักฐานว่า กลุ่มติดอาวุธของฮามาสใช้ยาเสพติด "แคปตากอน" แบบเดียวกับกลุ่มไอเอส ที่ช่วยกระตุ้นให้ลงมือสังหารได้อย่างเลือดเย็นและโหดเหี้ยมที่สุด และยาเสพติดชนิดนี้กำลังแพร่หลายทั่วตะวันออกกลาง

สื่ออิสราเอล "เยรูซาเลม โพสต์" (Jerusalem Post) รายงานว่า พบยา "แคปตากอน" (Captagon) ที่ได้รับฉายาว่า "โคเคนของคนยาก" เพราะเป็นยาเสพติดที่มีราคาถูกกว่าโคเคน และถูกจัดเป็นประเภทเดียวกันกับแอมเฟตามีน (Amphetamine) หรือ ยาบ้า ในกระเป๋าของกลุ่มติดอาวุธของฮามาส ที่เชื่อว่าเป็นตัวกระตุ้นให้พวกเขาลงมือสังหารหมู่อย่างบ้าคลั่งและโหดร้ายที่สุด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 

คาดว่า ผู้ก่อการร้ายฮามาส ที่บุกเข้าไปสังหารหมู่ชาวอิสราเอลแบบเซอร์ไพรซ์ ในพื้นที่ทางใต้ของประเทศ ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของยาเสพติดแคปตากอน ซึ่งเป็นยากระตุ้นประสาทประเภทแอมเฟตามีนสังเคราะห์ ที่ผลิตขึ้นอย่างลับๆ ในยุโรปตอนใต้ และถูกขนผ่านตุรกีไปยังตลาดมืดในคาบสมุทรอารเบีย 

ทางการอิสราเอลพบยาเสพติดชนิดนี้ ในกระเป๋าของศพผู้ก่อการร้าย ซึ่งฤทธิ์ของยาจะช่วยให้ผู้ก่อการร้าย กระทำการชั่วร้ายด้วยความรู้สึกสงบและไม่แยแส ขณะเดียวกันก็ทำให้พวกเขาตื่นตัวเป็นเวลานาน และยังระงับความอยากอาหารอีกด้วย

อิสราเอลอ้างหลักฐาน \"ฮามาส\" เสพยากระตุ้นการสังหารอย่างเลือดเย็น

ยาเสพติดยอดนิยมของไอเอส 

แคปตากอน กลายเป็นที่รู้จักเมื่อปี 2558 เมื่อพบว่า นักรบกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส (IS) ใช้เสพย์เพื่อระงับความกลัว ก่อนที่จะลงมือปฏิบัติการก่อการร้าย เมื่ออิทธิพลขององค์กรก่อการร้ายอย่างไอเอสลดน้อยลง เลบานอนกับซีเรียจึงเข้าควบคุมและเริ่มผลิตและจำหน่ายเป็นยาเสพติดในวงกว้าง

ขณะที่ปัจจุบัน ฉนวนกาซา ได้กลายเป็นตลาดใหญ่ยอดนิยมของยาเสพติด โดยเฉพาะในหมู่คนหนุ่มสาวที่ติดยา 

 

เดิม แคปตากอน อยู่ในกลุ่มแอมเฟตามีน และได้รับการพัฒนาในขั้นต้น เพื่อรักษาผู้ที่มีอาการของโรคลมหลับ (Narcolepsy) หรือ โรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติเกี่ยวกับการนอน เช่น ง่วงนอนตลอดเวลา, โรคสมาธิสั้น (address attention disorders) และโรคซึมเศร้า (depression) 

แม้จะเสี่ยงต่อการเสพติดสูง และกระตุ้นระบบประสาทที่รุนแรง แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมในตะวันออกกลาง เนื่องจากราคาไม่แพงและง่ายต่อการผลิต สำหรับประเทศที่ยากจนสามารถซื้อยานี้ได้ในราคาเพียง 1-2 ดอลลาร์ ซึ่งไม่ถึง 100 บาท แต่สำหรับในประเทศร่ำรวยราคาอาจดีดขึ้นไปเป็นเม็ดละ 20 ดอลลาร์

ผลจากการเสพยามากๆ คือ จะอยู่ในภวังค์แห่งความเคลิบเคลิ้มตลอดเวลา ไม่ยอมหลับยอมนอน ระงับความอยากอาหารและตื่นตัวตลอดเวลา 

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ในเลบานอนและซีเรียระบุ แคปตากอน ไม่เพียงแพร่หลายในหมู่กลุ่มติดอาวุธเท่านั้น แต่ยังถูกใช้โดยพลเรือนผู้สิ้นหวัง ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ความขัดแย้งอีกด้วย เมื่อก่อนแหล่งรายได้ของไอเอสมาจากการลักลอบขนยาเสพติด แต่ปัจจุบัน แคปตากอนกลายเป็นแหล่งรายได้หลักสำหรับซีเรีย และได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์

เมื่อราว 2 ปีก่อน รายงานข่าวเชิงสืบสวนของ นิวยอร์ก ไทม์ส (New York Times" ได้เปิดโปงว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ของซีเรีย รวมถึงสมาชิกในครอบครัว ได้สร้างอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรืองในการผลิตแคปตากอน ซึ่งเกี่ยวโยงกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ โดยมีพี่ชายของอัสซ้าดเป็นคนดูแล กลายเป็นองค์กรที่เจริญรุ่งเรืองท่ามกลางซากปรักหักพังของสงครามกลางเมืองในซีเรีย ที่ดำเนินมานานกว่าทศวรรษ

อิสราเอลอ้างหลักฐาน \"ฮามาส\" เสพยากระตุ้นการสังหารอย่างเลือดเย็น

กำไรที่มาจากการค้ายาเสพติดในซีเรีย สูงกว่าผลกำไรจากการส่งออกที่ถูกกฎหมายตัวเลขประมาณการที่เชื่อถือได้ ชี้ให้เห็นว่าการส่งออกของแคปตากอน จากซีเรียเพียง
ที่เดียว มีมูลค่าถึงขั้นต่ำ 3,500 ล้านดอลลาร์ ในปี 2563 ซึ่งมากกว่ามูลค่ารวมของอุตสาหกรรมการส่งออกที่ถูกกฎหมายของซีเรียถึง 5 เท่า โดยถูกประเมินไว้ที่ 700 ล้านดอลลาร์เท่านั้น 

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า นี่เป็นเพียงตัวเลขที่มาจากประเมิน แต่มูลค่าการตลาดที่แท้จริงของแคปตากอน น่าจะสูงกว่านี้มาก ตัวอย่างเช่น ในซาอุดิอาระเบีย มีการประเมินว่าการบริโภคแคปตากอน  มีมากกว่า 600 ล้านเม็ด/ปี ซึ่งสร้างมูลค่าตลาดอย่างน้อยปีละ 9,000 - 12,000 ล้านดอลลาร์ทุกปี

นอกจากนี้ ยังมีรายงานการจับกุมและยึดยาแคปตากอน ที่อิตาลี กรีซ มาเลเซีย และอียิปต์ โดยที่จอร์แดน แคปตากอนมีจำหน่ายในราคาถูก ทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่เยาวชนผู้ด้อยโอกาส รวมถึงเยาวชนในวัยเรียนด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า "ความชุก" ของยาเสพติดชนิดนี้ ยังคงเพิ่มขึ้นทุกปี

เดือนธันวาคม ปี 2564 ทางการคูเวตยึดแคปตากอนจำนวน 9 ล้านเม็ด ที่ซ่อนมากับการขนส่งส้ม ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สกัดกั้นการลักลอบขนยาแคปตากอนจำนวน 1.5 ตัน ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 380 ล้านดอลลาร์ ที่ซุกซ่อนอยู่ในลังบรรจุเลมอน

ปีที่แล้วเพียงปีเดียว มีการสกัดกั้นแคปตากอน มากกว่า 250 ล้านเม็ด ซึ่งเพิ่มขึ้น 18 เท่าเมื่อเทียบกับ 4 ปีที่แล้ว ตัวเลขเหล่านี้นับเฉพาะสินค้าที่ถูกยึดเท่านั้น ทำให้เหลือโอกาสให้คาดเดาได้ว่า ปริมาณการลักลอบขนจริง จะสูงกว่ามาก รายงานก่อนหน้านี้ระบุว่า แคปตากอนได้แพร่กระจายไปตามท้องถนนในอิสราเอลด้วย โดยขายได้ในราคาประมาณ 50 เม็ดต่อนิวเชเกล (สกุลเงินอิสราเอล) ... (1 นิวเชเกล=8.99 บาท)
 

logoline