
นครเมกกะหรือมักกะฮ์ มหานครศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม ต้องเผชิญพายุฝนฟ้าคะนองที่รุนแรงอย่างสูงสุด และฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้ผืนทะเลทรายในบางพื้นที่กลายเป็นทะเลส่งผลกระทบต่อผู้แสวงบุญ ต้องปิดโรงเรียนและสร้างความโกลาหล
คลิปวิดีโอที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นผู้แสวงบุญที่กำลังทำ "เฏาวาฟ" หรือการเดินเวียนรอบกะบะฮ์ (Kaaba) 7 ครั้ง เปียกโชกและลื่นไถลเนื่องจากฝนตกหนัก อีกทั้งลมแรงยังพัดสิ่งของปลิวไปรอบ ๆ ส่วนอีกคลิปแสดงให้เห็นสายฟ้าลงไปที่โรงแรมหรู "Fairmont Makkah Clock Royal Tower" เมื่อคืนวันอังคารด้วย
ฮุสเซน อัล-กอห์ตานี โฆษกศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ โพสต์ใน X ซึ่งเป็นชื่อใหม่ของ Twitter ว่า พายุที่เกิดขึ้นทำให้เกิดลมแรงเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในบางพื้นที่ใกล้เคียงก็เกิดน้ำท่วม ผู้คนที่อยู่บนถนนและเผชิญลมแรงต้องวิ่งหาที่กำบังบนถนน ขณะที่ยวดยานไม่สามารถวิ่งต่อไปได้
ทางการรายงานว่า ไม่มีอุบัติเหตุหรือผู้บาดเจ็บจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ ส่วนน้ำท่วมฉับพลันได้คลี่คลายลงแล้วในบางพื้นที่ แต่สถานการณ์ก็ยังคงมีความเสี่ยง
ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นใกล้เคียงกับตอนที่เกิดพายุเมื่อปี 2558 และทำให้เครนขนาดใหญ่ล้มที่มัสยิด อัล-ฮะรอม ( Masjid al-Haram) หรือ มัสยิดใหญ่แห่งมักกะฮ์ (Grand Mosque) ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน และบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน
ในช่วงที่เกิดพายุทางการนครเมกกะได้ประกาศผ่านแพลตฟอร์ม X ให้ปิดโรงเรียนทุกแห่งตั้งแต่วันพุธ และให้เรียนทางออนไลน์เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนต่างบอกว่า สถานการณ์บริเวณมัสยิดอัล-ฮะรอม น่ากลัวมาก ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีและเป็นพายุที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่พวกเขาจำได้