
ขณะที่ในปี 2565 มูลค่าการค้าระหว่างจีนและรัสเซียทำสถิติสูงถึง 190,270 ล้านดอลลาร์
ส่วนมูลค่าการค้าระหว่างจีนและรัสเซียในไตรมาสแรกของปี 2566 เพิ่มสูงขึ้น 38.7% และความร่วมมือด้านพลังงานจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคี
ด้านนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของการปฏิบัติตามความตกลงจากการพบปะกันของผู้นำทั้งสองประเทศเมื่อเดือนมีนาคม 2566 และจีนยินดีขยายความร่วมมือทางการค้ากับรัสเซีย และส่งเสริมทั้งด้านปริมาณและคุณภาพของความร่วมมือทวิภาคี
หลังจากเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวแล้ว นายมิชูสตินยังได้ไปเยี่ยมชมสถาบันวิจัยปิโตรเคมีของบริษัท ซิโนเปค ซึ่งเป็นกิจการผลิตน้ำมันและก๊าซของทางการจีนในนครเซี่ยงไฮ้ และหารือกับผู้แทนจากภาคธุรกิจของรัสเซียด้วย
เขายังกล่าวถึงความจำเป็นในการเพิ่มความร่วมมือด้านการเข้าถึงตลาดเกษตรกรรมระหว่างกันและเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และนายกรัฐมนตรีหลี่ กล่าวว่า เกษตรกรรมเป็นความร่วมมือค่อนข้างใหม่และมีความสำคัญในช่วงที่รัสเซียต้องการขยายตลาดนอกเหนือจากยุโรป และจีนต้องการเสาะหาแหล่งนำเข้าสินค้าเกษตรจากตลาดอื่น นอกจากนี้มิชูสติน บอกว่า การค้าด้านสินค้าเกษตรระหว่างสองระเทสเติบโตอย่างรวดเร็วมาก
มีรายงานว่า ในปีที่แล้ว การค้าด้านสินค้าเกษตรระหว่างสองประเทศเพิ่มสูงขึ้นถึง 42% เป็นกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้มิชูสติน บอกว่า ทั้งสองประเทศต้องการขยายความร่วมมือด้านการเงิน และอุตสาหกรรม ซึ่งภาคอุตสาหกรรมต่อเรือ, การผลิตโดรนสำหรับพลเรือน และอุตสาหกรรมไม้ มีความน่าสนใจ
และโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนตอบคำถามของสื่อมวลชนที่ว่า ความร่วมมือใกล้ชิดระหว่างจีนและรัสเซีย จะสร้างความกังวลและความไม่พอใจแก่ชาติตะวันตก ที่อาจใช้มาตรการคว่ำบาตรในบางธุรกิจที่ร่วมมือกับรัสเซียหรือไม่ โดยบอกว่า จีนดำเนินความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับประเทศอื่น ๆ ในโลก รวมถึงรัสเซีย ด้วยหลักการความเสมอภาคและสมประโยชน์สองฝ่าย และคัดค้านการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวที่ไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ หรือ ไม่ได้รับอาณัติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ พร้อมกับย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างจีนและรัสเซีย ไม่ได้มุ่งเป้าต่อชาติที่สาม และจะไม่หยุดชะงักหรือถูกบีบบังคับจากชาติที่สามด้วย