Energy Intelligence รายงานว่า รัสเซียถ่ายน้ำมันดิบมาที่ท่าเรือน้ำลึก จ้าวผิ่ว ( Kyaukphyu ) บนเกาะ Made Island ในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของเมียนมา และจากจุดนี้ น้ำมันก็จะถูกขนถ่ายผ่านท่อส่งความยาว 770 กิโลเมตร ไปยังโรงกลั่นน้ำมันของ PetroChina ในเมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน
รายงานยังระบุว่า การขนส่งน้ำมันไปประเทศจีนผ่านท่อส่งจากเมียนมา บ่งชี้ให้เห็นว่า บรรดาผู้ส่งออกน้ำมันของรัสเซีย พยายามจะหาเส้นทางส่งออกน้ำมันเส้นทางใหม่ในเอเชีย ซึ่งก็มีลูกค้ารายใหญ่ คือ จีน และอินเดีย ที่รับซื้อน้ำมันดิบปริมาณมหาศาลจากรัสเซีย นับจากสหภาพยุโรปห้ามซื้อขายน้ำมันดิบจากรัสเซียตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ( 2022 )
เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน เรือบรรทุกน้ำมัน Leonid Loza ของบริษัท Sun Ship Management ในดูไบ ก็ได้ขนถ่ายน้ำมันดิบรัสเซียมากถึง 1 ล้านบาร์เรล มาที่ท่าเรือน้ำลึก จ้าวผิ่ว แห่งนี้ โดยเรือลำนี้ ไปรับน้ำมันมาจากเมืองท่า โนโวรอสซีสค์ ( Novorossiysk ) ในทะเลดำของรัสเซีย จากการเปิดเผยของ Energy Intelligence
ทั้งยังตรวจพบการขนถ่ายน้ำมันจากเมืองท่า โนโวรอสซีสค์ เช่นกัน เดินทางไปเมียนมา แต่ครั้งนี้ใช้เรือขนน้ำมัน Fjord Seal ของปานามา
ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เมียนมาได้รับน้ำมันจากรัสเซียอยู่เป็นระยะ แต่ยังไม่ชัดเจนว่า รัฐบาลทหารเมียนมาสิ้นงบเท่าไหร่ในการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
ส่วนท่อส่งน้ำมันในเมียนมา ที่รัสเซียใช้ขนน้ำมันดิบส่งไปให้จีนนั้น เป็นท่อส่งที่ดำเนินการโดย China National Petroleum Corp เป็นบริษัทแม่ของ PetroChina ซึ่งมีหุ้นส่วนในธุรกิจท่อส่งน้ำมันนี้ 50.9% ส่วนที่เหลือเป็นของ Myanmar Oil and Gas Enterprise (MOGE) ที่รัฐบาลทหารเมียนมาเป็นเจ้าของ โดยบริษัทแห่งนี้ก็เพิ่งถูกสหภาพยุโรปคว่ำบาตรไปเมื่อต้นปีที่แล้ว
MOGE เป็นบริษัทที่สร้างรายได้ให้รัฐบาลทหารเมียนมามากที่สุด จากหลักฐานของหลายบริษัทในอังกฤษที่ข้องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมก๊าซในเมียนมา พบว่า Burma Campaign UK องค์กรภาคเอกชนในอังกฤษที่พุ่งเป้าฟื้นฟูสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและประชาธิปไตยในเมียนมา ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษคว่ำบาตร MOGE เสีย
ส่วน Justice For Myanmar (JFM) กลุ่มนักเคลื่อนไหวที่เฝ้าจับตาธุรกิจของรัฐบาลทหารเมียนมา ก็เรียกร้องให้หลายรัฐบาล รวมถึงสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น คว่ำบาตร MOGE ด้วยเช่นกัน เพราะจะช่วยตัดเส้นทางทำเงินของรัฐบาลทหารเมียนมา จะได้ไม่มีงบมาจัดซื้ออาวุธก่อเหตุรุนแรงสังหารพลเรือนอีก
ในช่วงที่เมียนมาอยู่ภายใต้การนำของรัฐบาลชุดก่อน ความสัมพันธ์ระหว่างเมียนมากับรัสเซีย ถูกจำกัดอยู่แค่การซื้อขายอาวุธและการส่งเจ้าหน้าที่กองทัพเมียนมาไปฝึกที่สถาบันและมหาวิทยาลัยในรัสเซียเท่านั้น แต่นับจากเกิดเหตุรัฐประหารเมื่อปี 2021 รัสเซียก็กลายเป็นผู้จัดหาอาวุธรายหลักให้เมียนมาทันที และยังขยายความร่วมมือครอบคลุมไปหลายภาคส่วน ตั้งแต่ด้านการทูตไปจนถึงการค้าและพลังงาน
พลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ยืนยันจะสร้างเสริมสัมพันธภาพและความร่วมมือกับรัสเซีย เขายังได้พบปะกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี 2022 ระหว่างเดินทางเยือนรัสเซีย