แพทย์เผยอาการป่วย “แอมเบอร์ เฮิร์ด” มักจะโยนความผิดให้คนรอบตัว
จิตแพทย์เผยอาการป่วย แอมเบอร์ เฮิร์ด มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง เมื่อมีความเครียดหรือความโกรธใดๆ เข้ามาจึงใช้วิธีโยนความผิดให้คนรอบตัว
ตั้งแต่มีเรื่องราวคดีความกับอดีตภรรยาคนสวย แอมเบอร์ เฮิร์ด ก็ดูเหมือนว่า ชีวิตของนักแสดงมากฝีมือ จอห์นนี เดปป์ จะยิ่งตกต่ำและดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจาก เดปป์ ถูกถอดออกจากบทภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ถึง 2 เรื่อง นั่นก็คือ Pirates of the Caribbean ที่เจ้าตัวรับบทดังในตำนานมายาวนาน กัปตันแจ็คสแปร์โรว์ มาถึง 5 ภาค
อีกทั้ง ล่าสุดนี้เอง ยังถูกถอดออกจากบท เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ใน Fantastic Beasts ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า จะไม่กลับไปรับบทดังกล่าวอีกแล้ว
ในช่วงตอนหนึ่งของการพิพากษาของศาล นิติจิตแพทย์ ที่เบิกความรายหนึ่ง ได้อธิบายประเด็นหนึ่งกับศาลว่า
..
ได้ใช้ แบบทดสอบ Minnesota Multiphasic Personality Inventory-2 mmpi-2 เป็นเครื่องมือในการวัดผลสภาพจิตใจของแอมเบอร์ และพบว่า แอมเบอร์ เฮิร์ด มีผลของบุคลิก 2 ประเภทนั้นอย่างชัดเจน คือ "ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง" และ บุคลิกภาพแบบฮิสทีรีออนิค
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า
คนที่มีลักษะแบบ แอมเบอร์ จะใช้ตนเองเป็นศูนย์กลาง มีความเชื่อติดหัวว่า ฉันถูกเสมอ หรือ "self-righteous" "judgemental" เมื่อมีความเครียดหรือความโกรธใดๆ เข้ามาจึงใช้วิธีโยนความผิดให้คนรอบตัว "externalises blame" และมีความกลัวที่จะถูกทอดทิ้งอย่างรุนแรง "desperate fear of abandonment"
ดังนั้น เมื่อมีอะไรที่กระตุ้นให้เธอเกิดความรู้สึกเครียด ไม่มั่นคง (ยกตัวอย่างประกอบคือ ตอน จอห์นนี เดปป์ ออกปากว่า..จะขอหย่า) ก็จะกระตุ้นให้ แอมเบอร์ แสดงออกพฤติกรรมที่สอดคล้องกับที่ว่ามาข้างต้น และอาจแสดงออกพฤติกรรมออกมาอย่างรุนแรงก้าวร้าวได้ เช่น หากอีกฝ่ายพยายามตีตัวออกห่างหรือขอหย่า ก็อาจมีการใช้ความรุนแรง เพื่อรั้งอีกฝ่ายไม่ให้จากไป หรืออาจใช้แนวทางตามกฎหมายเพื่อบังคับอีกฝ่ายไม่ให้ตีตัวออกห่าง เช่น ขู่ฟ้องศาลอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกาย ถ้าไม่ยอมกลับมาอยู่ด้วยกัน
#ดราม่าคู่รักคู่แค้นระดับโลก
เปิดเรื่องราวของ “อดีตคนเคยรักกัน” "จอห์นนี่ เดปป์" (Johnny Depp) และ "แอมเบอร์ เฮิร์ด" (Amber Heard) กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง แม้ทั้งคู่จะหย่าจากกัน ตั้งแต่มกราคม ปี 2017 , วันชื่นคืนสุขที่ทั้งคู่ ทั้ง "จอห์นนี เดปป์" และ "แอมเบอร์ เฮิร์ด" เดทกันตั้งแต่ 2012 และแต่งงานกันอย่างเป็นทางการเมื่อ 2015 มันได้จบลงอย่างแตกร้าว และเป็นเรื่องฉาวของวงการบันเทิงฮอลลีวู้ด และพูดถึงเรื่อยมา และลุกลามเป็นคดีฟ้องร้องกันจนถึงทุกวันนี้
.
ก่อนอื่นต้องเท้าความกลับไปที่เหตุการณ์การหย่าร้างระหว่าง "จอห์นนี เดปป์" และ "แอมเบอร์ เฮิร์ด" เมื่อปี 2017 กันก่อน เวลานั้น ทั้งคู่ออกแถลงการณ์ร่วมกัน และยุติความขัดแย้งข้อพิพาทในความสัมพันธ์ทุกอย่าง โดยระบุว่า ทั้งคู่ "ไม่เคยมีความจงใจและทำร้ายร่างกายจิตใจซึ่งกันและกัน" แม้จะมีข่าวเล็ดลอดออกมามากมาย
ส่วนเรื่องราวที่ เป็นคดีความ ปี 2021 ซึ่งมี การไต่สวนที่ "Fairfax County Court" ในรัฐ "เวอร์จิเนีย" นั้น คงต้องย้อนเท้าความกลับไปในช่วงที่มีการหย้าร้างกันของทั้งคู่ในปี 2017 กันอีกนิด โดยทั้ง "จอห์นนี เดปป์" และ "แอมเบอร์ เฮิร์ด" ทำข้อตกลงกันแล้วว่า จะไม่มีการ นำเรื่องเหล่านี้ไปบอกกับ ไปเผยแพร่กับสื่อมวลชนอีก แต่ทว่า ฝ่าย แอมเบอร์ เฮิร์ด" ได้เขียนบทความลงสำนักข่าว "The Washington Post" ว่า เธอทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่า เคยถูก "จอห์นนี่ เดปป์" ทำร้ายร่างกาย ซึ่งสร้างผลกระทบต่อทั้งภาพลักษณ์และอาชีพนักแสดงของเขาเป็นอย่างมาก (แต่ในบทความนั้น ที่จริง ไม่ได้มีการกล่าวถึง จอห์นนี่ เดปป์ แบบตรงๆเลย...)
อย่างไรก็ตาม ผลของการกระทำต่างๆมันได้ จากบทความนั้น มันส่งผลสะท้อน ราวกับเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวไปแล้ว เพราะ ในช่วงเวลานั้น ภาพลักษณ์ "จอห์นนี เดปป์" นักแสดงเบอร์ต้นๆ ของโลก ต้องพังสลาย และถูกแบน จากหนังต่างๆมากมาย สูญเสียรายได้มหาศาล ซึ่งนำมาสู่การที่ "จอห์นนี เดปป์" ฟ้อง "แอมเบอร์ เฮิร์ด" และเรียกร้องค่าเสียหาย 50 ล้านเหรียญครั้งนี้
การที่ แอมเบอร์ เฮิร์ดได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์ Washington Post เมื่อปี 2018 ว่า เธอเป็นบุคคลสาธารณะที่เคยถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว เธอตกเป็นเหยื่อในการล่วงละเมิดและถูกทำร้ายร่างกาย และถึงแม้ว่าจะไม่บอกชื่อของจอห์นนี่ เดปป์ไปตรง ๆ แต่ก็ทำให้จอห์นนี เดปป์ต้องเจอปัญหามากมาย ซึ่งจอห์นนี เดปป์ได้กล่าวอ้างว่ากากระทำของแอมเบอร์ เฮิร์ดนั้นเป็นการทำลายอาชีพ, ชื่อเสียง และชีวิตของเขา
ประเด็นปัญหานี้ได้ส่งผลทำให้จอห์นนี เดปป์ ถูกแบนจากสตูดิโอใหญ่ๆ รวมถึง Warner Bros. ที่ถอดเขาออกจาก หนัง Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ที่กำลังฉายทั่วโลกอยู่ในเวลานี้ และได้ แมด เมคคิลเซ่น มาเล่นแทน ทั้งที่เริ่มถ่ายทำวันแรกไปแล้วด้วย รวมถึง Disney ได้ถอดเขาออกจากบทนำในโปรเจกต์ ภาพยนตร์ Pirates of The Caribbean 6 ด้วย เนื่องจากสตูดิโอ กลัวว่าชื่อเสียงในด้านลบของจอห์นนี่ เดปป์ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแฟรนไชส์ที่เป็นภาพยนตร์แนวครอบครัว
..
สำหรับ คดีที่ จอห์นนี เดปป์ ฟ้องหมิ่นประมาท มูลค่า 50 ล้านเหรียญจาก แอมเบอร์ เฮิร์ด นั้น , ในชั้นศาลทำให้ แอมเบอร์ เฮิร์ด ได้กล่าวแย้งและยืนยันหนักแน่นว่าเรื่องที่เธอเผยผ่านสื่อ Washington Post เป็นเรื่องจริงและได้แจ้งข้อหาหมิ่นประมาท "จอห์นนี เดปป์" เข้าไปอีกด้วย โดยการขึ้นศาลในการสู้คดีครั้งนี้ทั้งฝ่ายโจกท์และจำเลยต่างก็นำหลักฐานมาต่อสู้กันอย่างไม่มีใคยอมใคร
ในการเบิกความนั้น คำเบิกความของทั้ง 2 ฝั่งขัดแย้งกันสิ้นเชิง , ฝั่ง เบนจามิน รอทเทนบอร์น ทนายของ แอมเบอร์ เฮิร์ด ระบุว่า ในช่วงที่ทั้งคู่สมรสกัน แต่ แอมเบอร์ เฮิร์ด ยืนยันว่าเธอเคยถูกจอห์นนี่ เดปป์ ล่วงละเมิดทางเพศมากกว่า 1 ครั้ง โดยเฉพาะในเหตุการณ์ ที่เธอเคยถูกขังไว้ที่ ออสเตรเลีย เมื่อปี 2015 และมีความรุนแรงทางเพศอื่นๆ ในขณะที่ จอห์นนี่ เดปป์ มีอาการเมายาเสพติด
ฝั่ง จอห์นนี่ เดปป์ ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ยาเสพติด แต่ถึงกระนั้น จอห์นนี่ เดปป์ ก็ให้การว่า เขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่อาจจะมีนอกลู่นอกทางบ้าง แต่เขาไม่ใช่พวกติดยาจนสามารถทำร้ายคนอื่นได้ เขายังควบคุมตัวเองได้เสมอ , และ เบน ชิว ทนายความฝั่งจอห์นี่ เดปป์ ยืนยันว่า ข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ และเรื่องทำร้ายร่างกายเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด นอกจากนั้น ยังกล่าวหา แอมเบอร์ เฮิร์ด กลับไปว่าเป็นฝ่ายใช้ความรุนแรงในความสัมพันธ์
นอกจากนี้ ในระหว่างพิจาณาคดี มีการเปิดคลิปเสียงในชั้นศาลด้วย ซึ่งมีเสียงของทั้งคู่ ทั้ง "จอห์นนี เดปป์" และ "แอมเบอร์ เฮิร์ด" โต้เถียงกันเรื่องการใช้กำลังทำร้ายร่างกาย โดย แอมเบอร์ เฮิร์ด พูดยืนยันเองในคลิปว่า เธอไม่ได้ต่อยเดปป์ แต่ตีหน้าเขา
สำหรับ คดี "จอห์นนี เดปป์" ฟ้อง 50 ล้านเหรียญจาก "แอมเบอร์ เฮิร์ด" ยังคงไต่สวนในชั้นศาลต่อไป และคาดว่าจะใช้เวลานานเกือบๆ 2 เดือน เพราะต้องสืบพยานจำนวนมาก , และ "แอมเบอร์ เฮิร์ด" ก็ฟ้องกลับต่อ จอห์นนี่ เดปป์ เช่นกัน โดยเรียกเงินถึง 100 ล้านเหรียญ ข้อหาว่าเรียกเธอว่า เป็นคนโกหก และทำให้ เสียชื่อเสียง
ก่อนหน้านี้ จอห์นนี เดปป์ เคยแพ้คดี ฟ้องร้องหมิ่นประมาทต่อหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์อังกฤษ อย่าง The Sun ที่เคยลงบทความว่า เขาเคยทำร้ายอดีตภรรยามาแล้ว โดยครั้งนั้น ศาลพิจารณาว่า รายงานข่าวของ The Sun มีมูลความจริง และเหตุการณ์ 12 จาก 14 เหตุการณ์ที่สื่อได้ตีพิมพ์ลงไป ได้เกิดขึ้นจริงๆ
ขอขอบคุณที่มา springnews