
"เด็กคนนี้ไม่รู้อิจฉาหรือเปล่า เราเตือนพี่เป็กเสมอ ว่าอย่าให้ทนไม่ไหว ผ่านมา 3 ปีกว่า มายุ่งกับลูกเรา เราไม่โอเคเลย เขามายุ่งกับเรา เราไม่เคยตอบโต้ ให้คนของเราไปจัดการตัวน้อง เขากับลียา รู้จักกัน เขาเคยทำงานกับบริษัทพี่เป็ก"
ธัญญ่าเผยอีกว่า มีการส่งข้อความมาหาลูก ลูกก็ตอบตามมารยาท แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องส่งมา
"เรารู้ว่าเขาอยู่ฐานะอะไร มันล้ำเส้นไปไหม เมื่อก่อนไม่เคยยุ่ง มีจะส่งข้อความมานานๆ ส่งมาที แต่ครั้งนี้ไม่ควรมายุ่งแบบนี้"
"เขาอาจจะรู้สึกว่ารำคาญใจที่มีเราอยู่ในฐานะ คนที่เหนือกว่าหรือเปล่า เพราะมักจะมีข้อความ อย่างเรื่องว่าแก่ พยายามเปิดตัวตลอด"
"เราพยายามมองข้าม เตือนคนของเราให้ช่วยจัดการ อย่าให้ทนไม่ไหว เรารู้เราโมโหขั้นสุด จะเกิดอะไรขึ้น เราไม่อยากมีข่าวเสียๆ แบบนี้อีกแล้ว"
"ขนาดนี้เมื่อมาถึงลูก เราก็ต้องจัดการ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเข้ามาใกล้ลูกเรากว่านี้ หรือส่งข้อความอะไรรุนแรงมาอีกมั้ย"
"เราจะคงเลือกครอบครัว เราผูกพันกับพี่เป็กมานาน เขาเป็นพ่อที่ดี แต่บกพร่องเรื่องความเจ้าชู้ เรารับได้ไหม ที่จะมีผู้หญิงหลายคนมาดูแลสามี แต่มาแบบไม่กอบโกยนะ ถ้าผู้หญิงเข้ามากอบโกยมากมาย เราก็ไม่โอเค ทุกวันนี้เราก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้ถามพี่เป็กเลยถึงผู้หญิงคนนั้น พี่เป็กก็ไม่ได้พูดถึงแม้เลยแต่นิดเดียว พี่เค้าก็ทำกับข้าวให้กินทุกวัน ทุกอย่างปกติ"
"น้องคงลืมเปลี่ยนแอคเคาท์ คงมีหลายอันไว้ตอบโต้ เขาอาจเห็นเรานิ่งเฉยมานาน คงไม่มีพิษสงอะไร คงคิดว่าสามีเราซัพพอร์ตอยู่ แต่ตอนนี้ปล่อยไม่ได้แล้ว ตอนนี้ให้เป็นตามกฎหมาย แต่เราก็ไม่ได้ใจร้าย ถ้าเขารู้ตัวว่าผิด จะไม่ทำอีก ก็จะให้อภัย"
"แต่เขาแรงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่มีใครหยุดเขาได้ เราจะหยุดเขาเอง ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับลูกเราอีก"
ทั้งนี้ ธัญญ่า บอกอีกว่า เรื่องราวแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อสิบปีก่อน ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นอีก แต่การจัดการอาจจะไม่หนักเท่าครั้งนั้น
ธัญญ่า ฝากถึงอิงอิงด้วยว่า เตือนมานานแล้ว เราไม่ได้อำมหิต โหดร้าย ไม่งั้นคงจัดการมานาน เขาคงรู้ว่าทำอะไรมาบ้าง อยากให้คิดใหม่ อนาคตอีกไกล น้องเพิ่งอายุ 20 ต้นๆ การเปลี่ยนความคิด ทัศนคติ จะทำให้มีความสุขขึ้น