จากใจ"หน้ากากจิงโจ้" "ผมพูดไม่ชัดแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว"

จบคืนวันพฤหัสที่แล้วปุ๊บ หลังจากจบรายการ "เดอะ แมสซิงเกอร์" แล้วถอด "หน้ากากจิงโจ้" เป็น "เป๊ก" ผลิตโชค อายนบุตร ก็เกิดกระแสดราม่าเต็มโลกโซเชียลในเรื่องการพูดของนักร้องหนุ่มที่ตลอดการใส่หน้ากากจิงโจ้ใรายการได้รับเสียงชื่นชม แต่พอถอดปุ๊บกลับถูกวิจารณ์เรื่องการพูดไม่ชัด ล่าสุด "บันเทิง คม ชัด ลึก" มีโอกาสพูดคุยกับหนุ่มเป๊กจึงถามถึงเรื่องนี้
"หลังจากถอดหน้ากากจิงโจ้ออกมา กระแสตอบรับที่กลับมามันเกินคาดจริงๆ บอกเลยว่าตอนที่ไปร่วมในรายการเราไม่ได้คาดหวังจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น ตอนแรกที่คิดแค่ว่าก็น่าสนุกดี ไปถ่ายรายการแต่งตัว ได้ร้องเพลงสากลที่อยากร้อง ได้ทำอะไรที่เราไม่ค่อยได้ทำ ก็น่าสนุกดี และเหมือนเป็นความโชคดีที่เราผ่านไปในรอบลึกๆ เลยได้โชว์อะไรเยอะมากมาย"
แต่พอถอดหน้ากากจิงโจ้ออกมาเป็น "เป๊ก" ก็มีกระแสดราม่าเรื่องของการพูดไม่ชัดออกมา

"ในส่วนของดราม่า เป๊กบอกตรงๆ เลยว่า เป๊กไม่รู้เลยว่าดราม่าคือเรื่องอะไร เพราะเป๊กไม่ได้ตามข่าว เวลาที่มีเรื่องอะไร จะด่าผม คนรอบข้าง เพื่อนๆ ก็จะไม่ส่งมาให้ดูอยู่แล้ว ผมเองก็ไม่เคยไปตามอ่านอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในตอนนั้น แต่ก็ได้ยินมาว่าคนด่าผมเรื่องพูดไม่ชัด ซึ่งผมก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง เพราะคือเรื่องจริง ผมไม่เถียงอะไร ซึ่งผมก็พูดแบบนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกว่าต้องไปซีเรียส หรือไปคิดอะไรกับเรื่องที่มีคนมาด่าเราเรื่องนี้ คนอื่นอาจมองว่าเป็นดราม่า แต่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยนะ"
มีข้อความที่เป๊กเขียนลงในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เกี่ยวกับกระแสความนิยมของหน้ากากจิงโจ้
"ใช่ ในเรื่องที่ว่าผมไม่ได้รู้สึกของการตอบรับที่มากมายแบบนี้มาเป็น 10 ปีแล้ว คือต้องเล่าให้ฟังเลยว่า ตอนนี้มีความงงเกิดขึ้นในชีวิตว่าคืออะไร เพราะเราไม่ได้สัมผัสมานานมากแล้ว ฟิลลิ่งนี้เคยเกิดขึ้นตอนอัลบั้มแรก ตอนเพลงไม่มีใครรู้ หรือตอนเป๊ก-อ๊อฟ-ไอซ์ ที่มีคนมารอรับที่สนามบินกลุ่มใหญ่มาก มากรี๊ด มาทำเป็นแฟนเพจให้เรา มาตามถ่ายรูปจริงจัง จนเมื่อ 2 วันที่แล้วไปทำงานที่ต่างจังหวัดก็มีคนมารับที่สนามบินกลุ่มใหญ่ มารอรับส่ง แล้วเขาก็มีคอนเนกชั่นกันทั่วประเทศ เขาเรียกเราว่าคุณหลวง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาเรียกเราว่าคุณหลวง ก็จะมีการส่งไม้ต่อกันว่าคุณหลวงออกจากกรุงเทพฯ แล้ว ให้ภูเก็ตรับไม่ต่อ หรือให้อุบลฯ รับไม้ต่อ ก็เป็นความน่ารักที่อยู่ๆ ก็เกิดขึ้นกับเราอีกครั้ง ทำให้หัวใจเราพองโต ไม่คิดว่าตอนนี้เราอายุ 30 ปีแล้ว เรายังจะได้รับสิ่งแบบนี้ (หัวเราะ) สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เหมือนเป็นสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ทำให้เรากลับมายิ้มได้อีกครั้ง"
อยากบอกอะไรแฟนๆ ที่ให้การตอบรับที่ดีขนาดนี้ไหม
"ทุกครั้งที่อ่านคอมเมนท์ข้อความในทุกๆ ช่องทางที่ส่งมา น้ำตาจะไหล เหมือนปาฏิหาริย์ ที่ตอนแรกเรากำลังจะถอดใจแล้ว กำลังจะโบกมือลาแล้ว แต่ก็มีปาฏิหาริย์นี้เกิดขึ้น ขอบคุณแฟนคลับเก่าๆ ที่ไม่เคยทิ้งเรา และแฟนคลับใหม่ๆ ที่มาอย่างล้นหลามทะลักเข้ามา ที่เขาคอยสนับสนุนเรา ที่เขาไม่แคร์ว่าเราจะมีรูปร่างหน้าตายังไง หรือว่าเราเป็นคนยังไง เขาไม่แคร์ในตรงนั้น เขาแคร์ความสามารถ แคร์ในตัวตนข้างในของเราจริงๆ รู้สึกขอบคุณมากๆ ที่ไม่มองข้ามผมไป และกลับมาให้ความสำคัญกับผมอีกครั้ง รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติมากๆ ที่ให้โอกาสผมอีกครั้ง"