"หยก เลิฟซิค" ปัดซ้อมสาว "ผักกาด" แฉยับให้เงินเลี้ยงดู แต่โดนหักหลัง

กลายเป็นประเด็นฮือฮาในโลกโซเชียล เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า ผักกาด ออกมาโพสต์แฉอดีตแฟนหนุ่มวัย 19 ปี ซึ่งอ้างว่าเป็นดาราวัยรุ่นจากซีรีส์ดัง โดยเขียนระบายว่าถูกทำร้ายร่างกาย ทั้งตบ ตี จิก และกระทืบ อีกทั้งยังถูกหลอกเงินกว่า 4 แสนบาท หลังคบหาดูใจกัน 1 ปี โดยโพสต์ภาพหลักฐานการโอนเงิน พร้อมทั้งข้อความคุยกัน และโพสต์ภาพบาดแผลที่โดนทำร้ายร่างกายลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว

หญิงสาวชื่อผักกาดโพสต์ข้อความว่า ไม่จำเป็นต้องใส่ความใครนะคะ มาพร้อมหลักฐาน ชัดเจน มีครบทั้งบุคคลพยาน พูดตรงนี้ย้ำชัดๆ ว่าไม่อยากกลับไปแล้ว วันนี้พอแล้ว ตอนแรกยอมรับว่า ง้อจริง เพราะเจ็บมาก รักมากเลยยอมมาตลอดไม่ว่าเขาจะเลวหรือไม่ดียังไงก็ยอมมาตลอด เพราะรักจึงไม่ยอมฟังใคร ตอนนี้ไม่อยากได้รักคืนแล้ว เรื่องเงินไม่ได้จะทวงแต่แรก แต่ฝ่ายชายเป็นคนพูดเองให้คิดเป็นเงินมา ดังนั้นช่วยรับผิดชอบคำพูดด้วยนะคะ ทั้งนี้สาเหตุที่คุยกับคนอื่น เพราะที่ผ่านมาต้องทนกับการถูก ตบตี ต่อย กระทืบ ซ้อม จนตาเขียว เลือดออก แถมยังใช้จิกหัวยิ่งกว่าคนใช้ และที่สำคัญที่คือคนนี้ยังถ่ายคลิปไม่ยอมลบ อีกทั้งยังแอบถ่ายรูปเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งตอนนั้นที่ยอมก็เพราะรัก

คือรักโง่ๆ เสียใจเพราะรักคนผิด ไม่รวมที่เอาแหวนผักไปขายด้วย และที่หยกนอกใจผักนับไม่ถ้วนไปเอากับคนอื่น พูดจาหยาบคาย สารพัด !!! จบกันเท่านี้นะหยก คืนเงินผักด้วยจบ มัลดีฟ 50,000 สักแขน 20,000 หลังครั้งละ 3,000 ไป 3 ครั้ง 9,000 กางเกงดิออร์ 20,000 ล่าสุดให้โอนค่าเสื้อ 9,500 แหวนที่หาย 2 วง วงละ 37,000 = 74,000 ให้โอนครั้งละ 5,000 อีกประมาน 5 ครั้ง 25,000 ค่าโรงแรมเวลาไปด้วยกัน 40,000 กระเป๋าสตางค์ 18,900 ค่าไฟที่ให้จ่ายทุกเดือน อยู่มา 10 เดือน ครั้งละประมาณ 2,500 หาร 2 ช่วยจ่ายครึ่งนึง = 12,500 ค่ากินใช้ เวลาไปเที่ยวหรือกินข้าว (กินแต่แพงๆ ดีๆ ทุกมื้อ) ตกวันละประมาณ 1,000 *30วัน*10เดือน 300,000 (เอาจริงๆ แค่นี้ก้อเกินแล้วลดให้เหลือ 200,000 ละกันคะ ไม่รวมที่ใช้จิปาถะ เวลาไปห้างซื้อเสื้อผ้าอีก โดยของทุกชิ้นจะเอาคืนทั้งหมด เพราะเขาบอกจะคืนให้ หญิงสาวชื่อผักกาด อ้าง

นอกจากนี้หญิงสาวชื่อผักกาดยังเขียนระบายอีกว่า ที่นำเรื่องมาพูดคุยไม่ได้ต้องการอยากได้ผู้ชายกลับคืนมา เพราะไม่ต้องการแล้ว ใครอยากได้เอาไป ส่วนที่ลงในโพสต์แค่ไม่อยากให้ดาราคนนี้ไปทำเลวๆ แบบนี้กับใครอีก อย่าเล่นกับความรู้สึกหรือความรักของคนที่รัก ตอนนั้นยอมรับว่ารักมาก โง่สนิท ปิดหูปิดตา ไม่ฟังใคร แต่ตอนนี้ฉลาดแล้ว ขอเดินออกมา และขอให้ช่วยกัน เพราะผู้หญิงไม่ควรเจอผู้ชายแบบนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ใส่ความ สิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำคือความจริง อยากจะดีใจกับคนโง่รายต่อไป แรงมาแรงกลับไม่โกง ต่อไปนี้เดินไปไหนก็เอากระโปรงคลุมหัวด้วย ดีใจด้วยไม่ได้แค้นโกรธ หรืออยากได้คืนอะไร แต่อยากให้เจอบ้าง เพราะผู้ชายคนนี้ทำอะไรไว้เยอะ
หญิงสาวชื่อผักกาดโพสต์ข้อความด้วยว่า นี่แหละที่ทนมาตลอด 1 ปีหลอกตัวเองว่ามันคือความรัก สุดท้าย ผักอยากเตือนสติผู้หญิงที่ยอมให้คนรักซ้อม อย่าหลอกตัวเอง ต้องกล้าเดินออกมา ถ้าเขาตีแสดงว่าไม่รัก จำไว้ ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้หญิงที่กลัวการอยู่คนเดียว แต่วันนี้สบายใจที่หลุดพ้นมาก เมื่อมองย้อนกลับไป ไม่รู้ว่าทนมาได้ยังไง ด่าหยาบคายสารพัด ทำร้ายจิตใจร่างกายนอกใจ เบียดเบียน วันนี้ขอรักตัวเอง และกล้าพอที่จะเดินออกมาละคะ!! จบเรื่องหยกแต่เพียงเท่านี้ นี่แหละสุภาพบุรุษ ปล.เงิน 4 แสนคืนด้วย

"ขอจบเรื่องผู้ชายคนนี้แต่เพียงเท่านี้ นี่แหละสุภาพบุรุษ เขาทำเราแล้วเชื่อว่าผู้ชายที่มีประวัติซ้อมผู้หญิงย่อมทำซ้ำค่ะ เขาบกพร่องทางการคุมอารมณ์มาก เพราะอารมณ์ร้าย โวยวาย ทุบตี ใช้คำว่า ไม่ยั้งมือด้วยนะคะ ผู้ชายอะไรที่สามารถตบผู้หญิงที่ตัวเองรักได้สุดแรง เล็บจิกไม่ยั้ง แมนมากกกกกกก ปล.เงิน 4 แสนคืนด้วยค่ะ สาวผัดกาดเขียนในโพสต์

ล่าสุดผู้สื่อข่าว คม ชัด ลึก ได้สอบถามไปยังนักแสดงวัยรุ่นซีรีส์ เลิฟซิค เดอะซีรีส์ รักวุ่น วัยรุ่นแสบ ที่หญิงสาวรายนี้อ้างถึง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ แต่ทราบข้อมูลจากผู้จัดการส่วนตัวของนักแสดงหนุ่มว่า ไม่สามารถติดต่อกับนักแสดงหนุ่มได้เช่นกัน เนื่องจากปิดโทรศัพท์มือถือ แต่ได้พูดคุยกับทางครอบครัว ซึ่งทางครอบครัวยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการชี้แจงหรือแถลงข่าวหรือไม่
ต่อมาเวลา 19.20 น. นายศุภฤกษ์ มีเพียร หรือ หยก เลิฟซิค ดาราหนุ่มที่ถูกหญิงสาวชื่อผักกาดพาดพิงถึง ได้ออกมาชี้แจงในรายการ อีเอฟเอ็ม ออนทีวี ถึงกรณีที่อดีตแฟนสาวออกมาแฉผ่านเฟซบุ๊กว่าถูกทำร้ายร่างกาย และหลอกเอาเงิน ที่สตูดิโอจีเอ็มเอ็ม 25 ชั้น 11 อาคารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ โดยยอมรับว่า ปกติเวลาคนเป็นแฟนทะเลาะกันต้องมีการผลัก หรือตีกันบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่มีการกระทืบแน่นอน

ปกติเวลาคนเราทะเลาะกันต้องมีผลักกันตีกันบ้างเหมือนคนที่เป็นแฟนกัน แต่ไม่เคยมีการกระทืบแน่นอน ถามว่าทะเลาะกันบ่อยไหม ก็บ่อยอยู่เหมือนกัน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ฝ่ายหญิงบอกจริงๆ แล้วไม่ถึงตามจำนวน 4 แสนบาทนะ เพราะบางส่วนก็เป็นเงินที่เขาให้มาเอง ซึ่งผมเองก็ได้เห็นในส่วนที่เขาเขียนแจกแจงไว้แล้ว แต่มันก็เป็นสิ่งที่เขาให้มาโดยเสน่หา และผมก็ไม่ได้ติดเงินเขาแน่นอน สำหรับคลิปที่ถ่ายไว้อันนี้ผมลบไปตั้งแต่วันที่เลิกกันแล้ว ผมไม่ได้เอามาขู่เขาเลยว่าจะเอามาลงหรือเอาไปทำอะไรเลยด้วย ผมลบไปตั้งแต่วันที่เลิก และเราสองคนก็เลิกกันมาเกือบเดือนแล้ว นายศุภฤกษ์กล่าว
นักแสดงหนุ่มเผยต่อเกี่ยวกับกระแสที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่า อยากให้จบลงแค่นี้ ไม่อยากจะพูดอะไรมาก และไม่อยากขยายความอะไรอีก
จากนั้นเมื่อเวลา 20.00 น. นายศุภฤกษ์ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นว่า เรื่องทำร้ายร่างกายไม่มี หากเวลาทะเลาะกัน เป็นเหมือนคนทั่วไปที่ทะเลาะกันมีสะบัดกัน มีผลักกัน และตนก็เป็นคนเล็บยาว

เราเป็นคนเล็บยาว บางทีไปโดนเขาก็เป็นรอยมีเลือดออกอะไรประมาณนี้ ในส่วนของรอยฟกช้ำดำเขียว ไม่มีนะ ผมไม่ได้ทำอย่างนั้น ถามว่าได้เห็นรูปรอยช้ำที่มีการส่งต่อกันหรือยัง ได้เห็นแล้ว แต่ของผมรอยที่โดนเป็นรอยเล็บที่จะเป็นรูปตรงหน้าอก ผมเป็นคนเล็บยาว บางทีไม่ได้ตัด แค่นั้น ไม่มีซ้อม ลงไม้ลงมือ เราเพิ่งจะมาทะเลาะกันช่วงหลังๆ ช่วงแรกๆ คบกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่สาเหตุของการทะเลาะคือหึงหวงประมาณนี้ เวลาทะเลาะจะมีการคุยกัน แต่ถ้าเกิดคุยกันไม่รู้เรื่องจะมีการสะบัดกันอะไรประมาณนี้ นายศุภฤกษ์เผย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทราบถึงสาเหตุหรือไม่ว่าทำไมฝ่ายหญิงถึงออกมาแฉ นายศุภฤกษ์กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ต้องไปถามตัวเขา ผมอยู่ของผมเฉยๆ ตอนนี้เลิกกันมาเกือบจะ 1 เดือนแล้ว ถามว่าเลิกกันไม่ดีไหม ก็ประมาณนั้น ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ สาเหตุเป็นเรื่องเดิมๆ เรื่องส่วนตัว เรื่องของกันและกัน หลังจากที่เลิกกัน ไม่ได้ติดต่อเลย จนอยู่ๆ ก็มาเกิดเรื่องนี้ เลิกกันได้ประมาณ 3 อาทิตย์ เขาเพิ่งจะมาเอาลง แต่ผมไม่ได้รู้สึกอะไร ผมไม่ทราบเหมือนกันต้องไปถามเขาดู

ส่วนประเด็นที่เห็นว่ามีการข่มขู่ว่าจะปล่อยคลิปของฝ่ายหญิงออกมานั้น นายศุภฤกษ์ยืนยันว่า ไม่มี วันที่เลิกกันวันสุดท้าย ตนลบคลิปออกเลย ลบออกไปแล้ว ตั้งแต่ที่เลิกกัน ซึ่งตอนที่ผมลบคลิป เขารู้ เพราะบอกเขาแล้ว บอกทุกคนว่าที่ตัวผมคือ ไม่มีคลิปแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้คิดจะแบล็กเมล์ ลบไปแล้ว แล้วตัวผมไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นด้วยซ้ำ ถามว่าอยากจะมีไปเคลียร์หรือปรับความเข้าใจกันไหม ไม่อยาก อยากให้มันจบแค่นี้ วันนี้อยากให้มันจบให้มันเคลียร์ๆ ไป ผมจะจบแค่นี้ของผม ถ้าเขาไม่ยอมจบก็ปล่อยเขาไป ผมมาพูดวันนี้เพื่อให้มันจบ ในส่วนของเรื่องเงินที่เขาบอกว่า หลอกเอาเงินไป 4 แสน ไม่ถึงจำนวนนั้น เขาให้เอง เป็นสิ่งของ ผมก็ไม่รู้ ผมไม่ได้ไปขอเขา เขาให้ผมเอง ไม่ได้หลอกนะ เขาให้ด้วยความเจตนาของเขาเอง ผมก็ไม่ได้ไปขอ ไม่ได้อะไรเขา

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีกระแสอะไรเกิดขึ้นบ้างกับตัวเรา นายศุภฤกษ์กล่าวว่า ไม่มี เพิ่งจะมามีวันนี้ ในโซเชียลผมเลิกเล่นไปแล้ว ไม่ได้เล่นแล้ว ไม่ได้เข้าไปดู ส่วนไอจีตั้งไพรเวทไว้ ไม่ได้ปิดไอจีหนี แค่เลิกเล่น แต่ก็ยังลงรูปอยู่ ไม่อยากเข้าไปแล้วทำให้ตัวเองเครียดเปล่าๆ ถามว่าเครียดไหมเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ก็นิดหน่อย คนเรามันต้องเครียด ถ้าสมมุติเจอเรื่องแบบนี้ และเราไม่ได้เป็นฝ่ายที่ออกมาพูดเลย พูดอยู่ฝ่ายเดียว มันก็ต้องคิดมั่ง อยากฝากบอกว่า วันนี้ที่ผมมาแถลง ผมอยากให้ทุกคนได้ฟังจากปากผมว่าผมไม่เคยลงอะไรเลย ผมอยากให้มันจบแค่วันนี้ ไม่อยากต้องมานั่งสาวต่อให้มันยาว และไม่อยากให้เขาโดนอะไร เขาก็เป็นผู้หญิง อยากให้มันจบแค่ตรงนี้
ผู้สื่อข่าวสอบถามเกี่ยวกับที่มีกระแสข่าวว่าฝ่ายหญิงไปฟ้องร้องแล้ว นายศุภฤกษ์เผยว่า อันนี้ยังไม่ทราบ แต่คงไม่มีการเคลียร์อะไรแล้ว วันนี้ออกมาพูดแล้ว เดี๋ยวเขาก็คงรับรู้ในสิ่งที่ผมพูดออกไป ในส่วนของการแจ้งความ ผมก็ไม่รู้ เป็นการพูดต่อกันไป ผมก็ไม่รู้ว่าใครพูดอะไรยังไง ได้แต่ได้ยินมา แต่ผมไม่ทำอะไร อยากให้มันจบแค่วันนี้ ตอนนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะยังไงต่อ ไม่ทราบตรงนั้น แต่ผมจบแล้ว ส่วนผลกระทบในวงการบันเทิง ผมไม่ได้ทำอะไรในวงการมาสักพักแล้ว เคยเล่นไปนานแล้ว ตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรแล้ว ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรเลย ในส่วนของครอบครัวผม เขาก็โอเค เขาอยากให้ออกมาพูดบ้าง พูดสักครั้งหนึ่งให้มันจบเลย ครอบครัวเข้าใจ ขอแค่พูดสักครั้งเดียวก็ยังดี พอได้พูดมันก็โล่งใจขึ้น ไม่ใช่อยู่เงียบๆ ต่อไป สำหรับผมวันนี้ผมว่าจบนะ ส่วนเรื่องเงินที่เขาทวง ก็เดี๋ยวคงจะติดต่อกันเอง คงคุยกับที่บ้าน กับเรื่องนี้ผมก็อยากเงียบๆ ไป ไม่รู้จะทำยังไง ถือว่าเป็นบทเรียน เป็นทุกอย่าง เพิ่งจะอายุ 19 เอง น่าจะเตือนอะไรได้หลายอย่าง วันนี้ผมได้ออกมาพูด สบายใจแล้ว อยากออกมาพูดความจริงให้รู้ อยากให้มันจบแค่วันนี้ ไม่มีอะไรมาก ถามต่อว่าอยากฝากบอกอะไรกับผู้หญิงไหม ไม่มี อยากให้มันจบแค่นี้ ส่วนจะขอโทษอะไรไหม เรื่องนั้นคุยกันเรียบร้อยหมดแล้ว