นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์หน้ากับ Nation STORY ว่า ราคาทองคำตั้งแต่ 1 มี.ค.- 15 มี.ค.ปรับตัวขึ้นประมาณ 123 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำมีปัจจัยหนุน จากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับดอกเบี้ยลงปีนี้
ทั้งนี้ราคาทองคำลดช่วงบวกลงมา จากราคาทองคำจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,195 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI ,PPI ) ที่อยู่ในระดับสูงของสหรัฐ อาจส่งผลให้เฟดไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้
ปัจจัยบวกลบที่ต้องติดตาม
- การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 19-20 มี.ค.นี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% โดยเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า นักลงทุนเทน้ำหนักกว่า 65% ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย.นี้
- การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 18-19 มี.ค. ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า BOJ อาจยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ นักลงทุนติดตาม ท่าที BOJ จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปหรือไม่ หรือ ยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบภายในเดือนเม.ย.เป็นอย่างช้า
- การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เศรษฐกิจอังกฤษประสบกับภาวะซบเซา และ ต้นทุนการนำเข้าพลังงานที่สูงขึ้นในช่วงเวลาที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครน คาดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 ที่ระดับ 5.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 16 ปี อาจส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตหากอัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลง
- ความตรึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ- จีน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายระบุให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ขายกิจการติ๊กต๊อก (TikTok) ภายในเวลา 6 เดือน มิฉะนั้น TikTok จะถูกแบนจากสหรัฐ โดยส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อไป ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวก่อนหน้านี้ว่า พร้อมที่จะลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าว หากผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส
สำหรับแนวโน้มทิศทางทองคำสัปดาห์หน้าเป็น Sideway up หลังจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 76.5 ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 77.4 จากระดับ 76.9 ในเดือนก.พ. และความกังวลปัญหาตรึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน
กลยุทธ์การลงทุน หลังจากราคาทองคำพุ่งทะยานขึ้น ราคาอาจมีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาบ้าง โดยระยะสั้นหากราคาพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้จะทำให้แนวโน้มราคาเป็นบวกมากขึ้น
แนะนำเปิดสถานะซื้อ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับ 2,153-2,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไรหากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 2,188-2,195 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้สถานะซื้อตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับ 2,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ตาม ประเมินแนวต้านแรกที่ 2,195 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้านถัดไปที่ 2,213 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้านสุดท้ายที่ 2,231 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวรับแรกที่ 2,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวรับถัดไปที่ 2,132 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวรับสุดท้ายที่ 2,115ดอลลาร์ต่อออนซ์