
แม้จะโดนมรสุมการเมืองซัดใส่มาอย่างหนัก แต่ "ทัก ษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงอยู่ในระดับมหาเศรษฐีที่อันดับ 1,434 ของโลก และร่ำรวยเป็นอันดับที่ 12 ของไทย จากจัดอันดับของนิตยสาร Forbes โดยประเมินว่าในปี 66 มีทรัพย์สินรวมมูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 71,348.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมากถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่พอร์ตการลงทุนของ "ตระกูลชินวัตร-ดามาพงศ์" ในตลาดหุ้นไทยจะอู้ฟู่หรือไม่นั้น และหุ้นที่ถืออยู่เป็นอย่างไร และรับเงินปันผลกันเท่าไหร่ตามไปดูกันเลย
เริ่มจาก บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจรประกอบด้วย 1. ธุรกิจเพื่อขาย เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารชุดพักอาศัย 2. ธุรกิจเพื่อให้เช่าและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ 3. ธุรกิจที่ปรึกษาและบริหารงานด้านการบริหาร เทคนิควิศวกรรม และระบบงานสนับสนุน
โดยประกาศงบปี 66 โกยรายได้เพิ่มขึ้น 13.46% เมื่อเทียบกับปีก่อนจากการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งการเติบโต หลักมาจากรายได้จากการขาย เป็นรายได้หลักของบริษัทกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากปีก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร เพิ่มขึ้น 13.96% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามการขยายตัวของโครงการและการเติบโตของรายได้
กำไรสุทธิ 2,482 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 2.89% จากขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น หากไม่รวม ขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรม กำไรสุทธิจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 2,556 ล้านบาท
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการเห็นชอบให้จ่ายเงินปันผลยอดรวมประจําปี 2566 ที่จ่ายจากกําไรของผลประกอบการ เท่ากับอัตราหุ้นละ 0.24 บาท คิดเป็น 44.35% ของกําไรสุทธิจากการดําเนินงาน
ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่บริษัทกําหนดไว้โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 66 ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท เป็นเงินจํานวน 341,586,872.24 บาทและจะเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นให้อนุมัติจ่ายเงินปันผลสําหรับผลประกอบการประจําปี 2566 เพิ่มเติมอีกในอัตราหุ้นละ 0.16 บาทเป็นเงินจํานวนทั้งสิ้น 683,928,304.48 บาท
โดยบริษัทกําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 3 พ.ค.67 และกําหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 พ.ค. 67 และจะนําเสนอเข้าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติต่อไป
สำหรับราคาหุ้น SC ปิด ณ 27 ก.พ.อยู่ที่ 3.42 บาท จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จำนวน 4,274,551,903 หุ้น เงินปันผลทั้งปี 0.24 บาทต่อหุ้น โดย "ตระกูลชินวัตร-ดามาพงศ์" เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งมีมูลค่าพอร์ต 9,273.02 ล้านบาท และรับเงินปันผล 650.73 ล้านบาท
1. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถือหุ้นมากสุด 1,216,149,870 หุ้น สัดส่วน 28.48% ราคาหุ้น ณ วันที่ 27 ก.พ.อยู่ที่ 3.42 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าถือครองรวม 4,159.23 ล้านบาท รับเงินปันผลทั้งปี 291.87 ล้านบาท
2. น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ถือหุ้น1,176,915,495 หุ้น 27.56% ราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 27 ก.พ. อยู่ที่ 3.42 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าถือครองรวม 4,025.05 ล้านบาท รับเงินปันผลทั้งปี 282.45 ล้านบาท
3. นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ถือหุ้น 201,234,375 หุ้น สัดส่วน4.71% ราคาหุ้น ณ วันที่ 27 ก.พ.อยู่ที่ 3.42 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าถือครองรวม 688.22 ล้านบาท รับเงินปันผลทั้งปี 48.29 ล้านบาท
4. คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาของนายทักษิณ ชินวัตร ถือหุ้น 117,109,887 หุ้นสั ดส่วน2.74% ราคาหุ้น ณ วันที่ 27 ก.พ.อยู่ที่ 3.42 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าถือครองรวม 400.51 ล้านบาท รับเงินปันผล ทั้งปี 28.10 ล้านบาท
ถัดมาคือโรงพยาบาลพระราม 9 (PR9 ) ให้บริการครอบคลุมทั้งการรักษาโรคทั่วไปและโรคเฉพาะทาง ที่หลากหลาย มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคที่มีความซับซ้อน เช่น การผ่าตัดเปลี่ยนไต การผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ การผ่าตัดสมอง การผ่าตัดต่อมไทรอยด์แบบไร้แผล ฯลฯ โดยทีมแพทย์มืออาชีพ
ล่าสุดประกาศงบปี 66 มีกำไร 557.86 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.71 บาท ลดลงจากปีก่อนที่กำไร 567.61 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.72 บาท นอกจากนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 235,890,000 บาท คิดเป็น 42.28 % ของกำไรตามงบการเงิน เฉพาะกิจการ ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผล
ซึ่งกำหนดให้จ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40 % ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ใน กฎหมายและข้อบังคับของบริษัท
โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏชื่อ ณ วันที่ กำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันศุกร์ที่ 3 พ.ค.67 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันจันทร์ ที่20 พ.ค.67 ทั้งนี้ การให้สิทธิรับเงินปันผลดังกล่าวของบริษัทยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากต้อง รอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น
โดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ คุณหญิง พจมาน ดามาพงศ์ ถือหุ้นจำนวน 292,062,500 หุ้น สัดส่วน37.14 % ราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 27 ก.พ.อยู่ที่ 18.70 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าถือครองรวม 5,461.86 ล้านบาท รับเงินปันผล 87.61 ล้านบาท
จากยอดสรุปขุมทรัพย์พอร์ตหุ้นทั้งหมดของ "ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ " ซึ่งอยู่ที่ 14,734 ล้านบาท ถือว่ายังรวยเป๋าตุงแบบไม่น้อยหน้าใคร ขณะที่เตรียมโกยเงินปันผลในงวดปีล่าสุด ทั้งหมด 738.35 ล้านบาท
หากรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยที่มี “อุ๊งอิ๊ง” เป็นหัวหน้าพรรค สามารถสร้างเสถียรภาพให้รัฐบาลและเศรษฐกิจ รวมทั้งเรียกศรัทธาของนักลงทุนในตลาดหุ้นให้กลับมาได้ ความมั่งคั่งของตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ จะเพิ่มขึ้นไปอีกมากน้อย เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูต่อไป.....