นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์หน้ากับ Nation STORY ว่า ราคาทองคำช่วง 1 ก.พ.- 9 ก.พ. ปรับตัวลงประมาณ 4 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ รับแรงกดดันจาก ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด ประกอบกับ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนี S&P 500 ทะยานแตะระดับ 5,000 จุดเป็นครั้งแรก
ขณะที่บริษัทในดัชนี S&P 500 ที่รายงานผลประกอบการรายไตรมาสสูงกว่าคาด มีมากถึง 80.6% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวซึ่งอยู่ที่ระดับ 67%
ปัจจัยบวกลบที่ต้องติดตาม
สำหรับแนวโน้มทิศทางทองคำหลังตรุษจีน ยังคงเคลื่อน ไหวการแกว่งตัวในกรอบ Sideway หลังจากราคาปรับตัวขึ้นมาแล้วในระดับหนึ่ง มีแรงขายสลับเข้ามากดราคาเพิ่มขึ้นโดยราคาทองคำขึ้นกับปัจจัยต่างประเทศ และค่าเงินบาทว่าจะอ่อนหรือแข็งค่ามากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม ราคาพยามทดสอบแนวต้านโซน 2,042-2,049 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หากไม่สามารถยืนได้ จะทำให้ระยะสั้นราคามีแนวโน้มราคาอ่อนตัวลง
โดยประเมินแนวรับบริเวณ 2,018-2,001 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนะนำเปิดสถานะขาย หากราคาไม่ผ่านโซนแนวต้านดังกล่าว ซึ่งให้ตัดขาดทุนหากราคาสามารถยืนเหนือระดับ 2,066 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เมื่อราคาปรับตัวลงอาจพิจารณาดูบริเวณแนวรับ หากยืนได้ แนะนำทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไร
อย่างไรก็ตาม ประเมินแนวต้านแรกที่ 2,049 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวต้านถัดไปที่ 2,066 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวต้านสุดท้ายที่ 2,088 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวรับแรกที่ 2,018 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวรับถัดไปที่ 2,001 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแนวต้านสุดท้ายที่ 1,986 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์