คลังเล็งรื้อเกณฑ์ใหม่ "พิโกไฟแนนซ์ " ป้องกันกลุ่มทุนผูกขาด

น.ส.สุมาลี สถิตชัยเจริญ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)  เปิดเผยความคืบหน้าการปรับปรุงประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ(พิโกไฟแนนซ์) ว่า  สศค.อยู่ระหว่างสรุปความคิดเห็นของผู้ประกอบการ และบุคคลทั่วไป หลังจากได้เปิดรับฟังทำความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงกฏระเบียบฉบับใหม่เมื่อวันที่ 6- 20 ก.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ ภายในปลายเดือน ต.ค.นี้ จากนั้นจะส่งเรื่องให้ปลัดกระทรวงคลังพิจารณา และเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนามต่อไป หากเห็นชอบจะประกาศหลักเกณฑ์ใหม่ได้ภายในสิ้นปีนี้

ส่วนหลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่นั้น  กำหนดการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ หากผู้ประกอบการไม่ดำเนินกิจการ หรือ ให้บริการสินเชื่อ ภายใน 2 ปีหลังได้รับใบอนุญาต โดยจะต้องส่งคืนในอนุญาตกลับภายใน 15 วันทำการ นับตั้งแต่ใบอนุญาตสิ้นผล เพราะถือว่าไม่ได้ตั้งใจประกอบธุรกิจ จากหลักเกณฑ์เดิมไม่ได้กำหนดเงื่อนไขดังกล่าวไว้

นอกจากนี้กำหนดโครงสร้างผู้ถือหุ้นจะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย ถือหุ้นสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 50% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด จากเดิมระบุเพียงว่า เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น และยังกำหนดให้ผู้ถือหุ้นสามารถเปิดบริษัทพิโกไฟแนนซ์ได้เพียง 1 บริษัท ใน 1 จังหวัดเท่านั้น

โดยผู้ถือหุ้นในบริษัทหนึ่ง ไม่สามารถแยกไปจัดตั้งบริษัทใหม่ เพื่อทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อในรูปแบบพิโกไฟแนนซ์ซ้ำซ้อนในจังหวัดเดียวกันได้อีก รวมทั้งไม่ให้ปล่อยกู้ข้ามจังหวัด เนื่องจากเป็นการผูกขาดตลาด ซึ่งอาจทำให้ดอกเบี้ยไม่อยู่ในกรอบที่กำหนดที่ 28-36% ต่อปี ถือว่าผิดเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ผู้ประกอบธุรกิจนอกระบบเข้าสู่ระบบมากขึ้น และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อย

อย่างไรก็ตาม  จากการตรวจสอบในที่ผ่านมาพบว่าผู้ถือหุ้นกลุ่มเดียวกัน ใช้กลยุทธ์กระจายเปิดบริษัทเพิ่มถึง 4 แห่ง ถือเป็นการผูกขาดตลาด เพราะเป็นผู้เล่นรายเดียวกัน ซึ่งผิดหลักเกณฑ์การใช้สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ที่อยากเห็นผู้ประกอบธุรกิจนอกระบบที่มีอยู่จำนวนมาก เข้าสู่ระบบมากขึ้น ไม่ได้จำกัดอยู่กับรายใด หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น 

ทั้งนี้จากการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องพบว่า ผู้ประกอบการไม่ติดใจ หรือมีข้อกังวล กรณีหากไม่ดำเนินกิจการจะเพิกถอนใบอนุญาตภายใน 2 ปี แต่กังวลเกณฑ์ไม่ให้ผู้ถือหุ้นรายเดิมเปิดบริษัทเพิ่ม ซึ่งทางหน่วยงานก็ได้ชี้แจงว่า ตามเจตนารมณ์ต้องการให้คนพื้นที่ปล่อยสินเชื่อกันเอง อย่างไรก็ตาม สศค.จะนำข้อเสนอ และข้อกังวลดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาต่อไป 

สำหรับวัตถุประสงค์ของการปรับปรุงหลักเกณฑ์พิโกไฟแนนซ์ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจมีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับการปล่อยสินเชื่อระดับจังหวัดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งเสริมธุรกิจให้มีความโปร่งใส เพื่อหนุนให้พิโกไฟฟแนนซ์เป็นแหล่งทุนของประชาชนที่ขาดโอกาส และขาดศักยภาพในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของไทย

อย่างไรก็ตาม ข้อมูล ณ เดือน มิ.ย.2566  มีผู้ประกอบการได้รับอนุญาตดำเนินธุรกิจพิโกไฟแนนซ์ จากกระทรวงการคลัง ประมาณ 1,114 ราย  จากทั้งหมด 75 จังหวัด