svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดกนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็นครั้งสุดท้าย

27 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินประชุมบอร์ด กนง. 29 มี.ค. นี้ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% และอาจปรับขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ยุติทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ลดผลกระทบต่อสถาบันการเงินตามทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารหลักของโลก

บทวิเคราะห์ของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าในการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ที่จะถึงนี้ในวันที่ 29 มี.ค.2566 คาดว่า กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 1.75% และการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ อาจเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดกนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็นครั้งสุดท้าย

ทั้งนี้ เงินเฟ้อทั่วไปของไทยลดลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือนที่ 3.8% ซึ่งการที่เงินเฟ้อยังอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายของ กนง. นั้นเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ย นโยบายในการประชุมที่จะถึงนี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (policy space) สำหรับอนาคต หากมีสถานการณ์ที่ส่งผลให้ กนง. จำเป็นต้องมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในระยะข้างหน้า

 

ขณะที่เศรษฐกิจไทย เผชิญความเสี่ยงมากขึ้น จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางผลกระทบของการปรับขึ้น ดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีที่แล้วของธนาคารกลางหลักอย่าง Fed และ ECB ประกอบกับปัญหาธนาคารชาติตะวันตก ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้น กนง. คงจะต้องให้น้ำหนักต่อความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะหยุดปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะอันใกล้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดกนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็นครั้งสุดท้าย

นอกจากนี้ แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Fed เริ่มเข้าใกล้จุดสูงสุดแล้ว ส่งผลให้แรงกดดันจากแนวโน้มนโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกเริ่มลดลง 

สำหรับจากการประชุม FOMC ล่าสุดในวันที่ 21-22 มี.ค. ที่ผ่านมา Fed มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 ตามคาด ขณะที่ส่งสัญญาณว่าวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้สิ้นสุดลง ส่งผลให้แรงกดดันจากแนวโน้มนโยบายการเงินแบบตึงตัวของ Fed นั้นมีลดลง 

อย่างไรก็ดี ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ ยังมีความไม่แน่นอน โดยคงขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ รวมถึงเสถียรภาพด้านการเงินในระยะข้างหน้า ท่ามกลางปัญหาภาคธนาคารในประเทศตะวันตก โดยหากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย แล้วส่งผลให้ Fed อาจจำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า คงต้องติดตามว่า กนง. จะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ย นโยบายตามหรือไม่

 

logoline