svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

ปักหมุด 7 หุ้นเด่น ! กำไรเติบโตตัวไหนน่าเก็บเติมพอร์ต

26 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

บล.กสิกรไทยประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,600 จุด (บวก-ลบ)  เกาะติดปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะเงินเฟ้อสหรัฐฯ-การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าปัจจัยภายในประเทศ ด้านบล.พายมองปัญหา Deutsche Bank ยังไร้กังวล คาดกนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ปักหมุด 7 หุ้นเด่น

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้  แกว่งตัวในกรอบ  1,600 จุด (บวก-ลบ)  โดยประเด็นสำคัญที่กำหนดตลาดหุ้นไทย คือการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือกนง. วันพุธที่ 29 มี.ค.นี้  ซึ่งกสิกรไทยและตลาดประเมินว่า กนง.จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 1.75% หลังจากนั้นคาดว่ากนง.จะคงดอกเบี้ยตลอดปี หรือ เป็นการขึ้นครั้งสุดท้ายของดอกเบี้ยขาขึ้น

โดยประเมินประเด็น กนง. จะไม่ได้มีผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยยะ เนื่องจากเป็นประเด็นที่ตลาดรู้ก่อนหน้าอยู่แล้ว ส่วนประเด็นต่างประเทศจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่าปัจจัยในประเทศปัจจัยสำคัญคือ 1. เงินเฟ้อสหรัฐ  (โดยเฉพาะภาคบริการ และ housing) ว่าจะกดลงตามที่ตลาดคาดหวังหรือไม่จากกรณี tightening credit condition  (เงื่อนไขสินเชื่อที่รัดกุม) ในสหรัฐฯ และเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ย หรือTerminal rate อยู่ที่ 5-5.25%   

2. การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ,ปัญหา default , กำไร บจ. จากผลของต้นทุนการเงินที่สูงขึ้นทำให้การ refinance มีต้นทุนที่สูงขึ้น และกู้ยากขึ้น ดังนี้ตลาดจึงคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยใน 2H23 จำนวน 0.75-1% เพื่อหนุนการ soft landing

โดยรวมประเมินภาพตลาดหุ้นไทยจะยังแกว่งตัวต่อในช่วงไตรมาส 265  เพื่อรอดูปัจจัยต่างประเทศดังกล่าว  ส่วนปัจจัยในประเทศ หลักคาดต่างชาติจะยังรอดูผลการเลือกตั้งในประเทศ การประกาศตัวเลข GDP 1Q23 ของไทย และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งแรกของเดือน พ.ค.  โดยรวมในเชิงกลยุทธยังแนะนำเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ และราคาหุ้นอยู่ในโซนล่าง  

สำหรับธีมการลงทุนนั้นจะเป็นหุ้นที่ราคาพักฐานลงมาแล้ว แต่มีปัจจัยบวกหนุนหรือทิศทางผลประกอบเติบโต  แนะนำ  CK ราคาพื้นฐาน 33.30 บาท CPN ราคาพื้นฐาน 79  บาท และ SNNP ราคาพื้นฐาน  30.30 บาท

ปักหมุด 7 หุ้นเด่น ! กำไรเติบโตตัวไหนน่าเก็บเติมพอร์ต

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า วันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนกังวลกับการปรับขึ้น CDS ของธนาคาร Deutsche Bank (สะท้อนถึงความกังวลผิดนัดชำระหนี้) โดยผลประกอบการ 4Q22 รายได้อยู่ที่ 6.3 พันล้านยูโร (+7%YoY) และมีการตั้งสำรองที่ 351 ล้านยูโร (+38%YoY) แต่ธนาคารยังคงมีกำไรสุทธิที่ 1.9 พันล้านยูโร (ขยายตัวเด่นมากเมื่อเทียบกับปีก่อน)

อย่างไรก็ตาม Deutsche Bank มีค่าใช้จ่ายเทียบกับรายได้ (Cost to income Ratio) ที่ค่อนข้างสูง ราว 82% เร่งขึ้นจากไตรมาส 3Q22 ที่ 71.6% แต่ลดลงจาก 4Q21 ที่ 94.3% ด้านการตั้งสำรองต่อหนี้สงสัยจะสูญอยู่ที่ 142% เร่งขึ้นจาก 3Q22 ที่ 136% และ 4Q21 ที่ 133%

ส่วนของการตั้งสำรองเทียบกับยอดปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 0.28% แม้จะเร่งขึ้นจาก 4Q21 ที่ 0.22% แต่ก็ยังถือเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำ ดังนั้นโดยสรุปดูยังไม่น่ากังวลเท่าใดกับประเด็นของ Deutsche Bank 

สำหรับสัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับประชุม กนง. ในวันพุธ Bloomberg คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.75% อย่างไรก็ตาม แนะนักลงทุนติดตามถ้อยแถลงด้านเศรษฐกิจรวมถึงประมาณตัวเลขต่างๆ

ขณะเดียวกันจะมีการรายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศไทยประจำเดือน ก.พ. Bloomberg คาดมูลค่าส่งออกหดตัว 7%YoY นำเข้าขยายตัว 2%YoY พร้อมกับขาดดุลการค้า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากรายงานแล้วสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้จะเป็นปัจจัยบวกกับตลาดหุ้น

ส่วนต่างประเทศติดตาม 1. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB ของสหรัฐฯในวันอังคาร 2. เงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) ในวันศุกร์ช่วง 19.30 ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg คาด PCE ที่ 5.1%YoY 0.3%MoM และ Core PCE ที่ 4.7%YoY 0.4% MoM หากรายงานแล้วต่ำกว่าคาดการณ์จะเป็นบวกกับตลาดหุ้นต่อเนื่อง

โดยประเมิน SET สัปดาห์นี้กรอบ 1,570 – 1,620  จุด คาดตลาดหุ้นจะเริ่มชะลอความร้อนแรงหลังปรับขึ้นมา 5% จากจุดต่ำสุด Price In การผ่อนคลายภาคธนาคารและดอกเบี้ยของ FED ไปพอสมควร เชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเริ่มลดพอร์ตการลงทุนบางส่วน หุ้นแนะนำ RATCH (TP 55) CPALL (TP 72) TU (TP 23.5) AOT (TP 78)

ปักหมุด 7 หุ้นเด่น ! กำไรเติบโตตัวไหนน่าเก็บเติมพอร์ต

logoline