นักลงทุนเทขาย "หุ้นพลังงาน-แบงก์" กดดัชนีร่วง

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส เปิดเผยภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,671.46 จุด ลบ 9.76 จุด หรือ 0.58% โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,683.90 จุด และต่ำสุดที่ 1,671 จุดมูลค่าการซื้อขาย  82,295.95  ล้านบาทกับ Nation Online ว่า

ตลาดหุ้นไทยปิดลบ ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ร่วงกันยกแผง เช่น ฟิลิปปินส์ลง 2.5% ไต้หวันลง 1.5% จีนลง 1.1% เนื่องจากนักลงทุนรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ซึ่งจะรู้ผลในวันที่ 2 ก.พ.นี้ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน เพื่อดูทิศทางการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของประธานเฟด

สำหรับหุ้นที่กดตลาดเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลงกว่า 5% เช่น BANPU ลง 3.3% ขณะที่หุ้นธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลง เช่น หุ้น SCB ลง 3.26% BBL ลง 1.55%  ส่วนหุ้น outperform ตลาดเป็นหุ้นกลุ่ม defensive เป็นหุ้นโรงพยาบาล เช่น CHG บวก 5.26% BCH บวก 3.3%

ด้านมูลค่าซื้อขายพบว่านักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 403.05 ล้านบาท ต่างประเทศขายสุทธิ 2,894.50 ล้านบาท บัญชีบล. ซื้อสุทธิ 1,229.34 ล้านบาท ในประเทศซื้อสุทธิ 2,068.21 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ติดตามนอกเหนือจากผลประชุมเฟดแล้วยังเป็นตัวเลข CPI ยุโรปเดือนม.ค.คาดว่าจะอยู่ที่ 9.1% จากเดือนธ.ค.อยู่ที่ 9.2%

นอกจากนี้การที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟปรับขึ้นจีดีพีโลก หลังจากจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด โดยปรับจีดีพีโลกจาก 2.7% เป็น2.9% จีดีพีสหรัฐฯ จาก 1% เป็น 1.4%  จีดีพียุโรปจาก 0.5% เป็น 0.7% และจีนจาก 4.4% เป็น 5.5% ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก เพราะเศรษฐกิจในหลายประเทศแข็งแกร่ง

ส่วนภาพรวมการลงทุนช่วงรอประชุมเฟดตลาดจะเกิดความผันผวนและนักลงทุนจะลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น แนะนำหุ้น defensive เช่น GULF (FV@B65) AP ([email protected]) และSTEC ([email protected])

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KCE มูลค่าการซื้อขาย 5,588.13 ล้านบาท ปิดที่ 54.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.75 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,827.14 ล้านบาท ปิดที่ 11.60 บาท ลดลง 0.40 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,640.62 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท ลดลง 2.25 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,023.11 ล้านบาท ปิดที่ 900.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,208.67 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท ลดลง 1.00 บาท