3 ม.ค.66 "ตลาดหุ้นไทย" เปิดซื้อขายวันแรกของปี ดัชนีหุ้นไทย ปิดที่ 1,678.97 จุด มูลค่าซื้อขาย 64,998 ล้านบาท โดยหุ้น ที่ปรับตัวขึ้นหนุนตลาด คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มท่องเที่ยว ที่ได้รับอานิสงค์ ของกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน หลังจากที่รัฐบาล เตรียมพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย วันที่ 8 ม.ค.66
ขณะที่หุ้น บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ปรับตัวขึ้นแรง โดยราคาปิดที่ 930 บาท เพิ่มขึ้น 100 บาท หรือ 12.05% หลังติดเข้าคำนวณ SET50 ในช่วงครึ่งแรกปี 66 ซึ่งราคาหุ้น DELTA ที่ปรับเพิ่มขึ้นส่งให้ DELTA มีมาร์เก็ตแคป แตะ 1.16 ล้านล้านบาท
นักวิเคราะห์ จาก บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ดัชนีหุ้นไทย ที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากหุ้น DELTA ที่ปรับเพิ่มขึ้นแรงจากการเก็งกำไร หลัง บริษัท เดลต้า ได้เข้าคำนวณดัชนี SET50 จากการปรับเกณฑ์ Free Float ซึ่งจะมีผลช่วง 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.66) รวมทั้งยังคาดการณ์กำไร ในไตรมาส 4/65 จะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยได้แรงหนุนจากหุ้น DELTA ซึ่งการปรับตัวขึ้นของ DELTA มีผลต่อดัชนี ประมาณ 8 จุด ส่วนที่เหลือเป็นหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) จากเงินทุนต่างชาติไหลเข้า (Fund Flow)
ทั้งนี้หลักทรัพย์ ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1. DELTA ปิดราคาที่ 930.00 บาท เพิ่มขึ้น12.05% มูลค่าการซื้อขาย 12,485 ล้านบาท
2. BBL ปิดราคาที่ 151.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.03% มูลค่าการซื้อขาย 2,318 ล้านบาท
3. CPALL ปิดราคาที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.80 % มูลค่าการซื้อขาย 2,062 ล้านบาท
4. KBANK ปิดราคาที่ 149.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.02% มูลค่าการซื้อขาย 1,904 ล้านบาท
5. AOT ปิดราคาที่ 75.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง 0.00% มูลค่าการซื้อขาย 1,651 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดดัชนีฯ แกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากเข้าสู่โซน Overbought แล้ว แต่ยังคาดว่า จะได้แรงหนุนจากเงิทุนไหลเข้าอยู่ ประกอบกับแรงเก็งกำไรจากจีนเปิดประเทศ โดยดัชนีหุ้นไทย มีแนวรับ 1,670-1,675 จุด และแนวต้าน 1,690 จุด