svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

กกพ.ชี้ช่องลดค่าไฟ 17 สตางค์ เหลือ 3.98 บาท/หน่วย

กกพ.เล็งทำหนังสือถึงนายกฯ ชงแนวทางลดค่าไฟ 17 สตางค์/หน่วย เหลือ 3.98 บาท/หน่วย จากปัจจุบันเฉลี่ย 4.15 บาท/หน่วย ชี้ต้องทบทวนเงื่อนไข Adder-FiT รับซื้อตามต้นทุนจริง

นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า การประชุม กกพ. เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2568 กกพ. มีมติให้สำนักงาน กกพ. ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอทางเลือกให้ภาคนโยบายทบทวนและปรับปรุง เงื่อนไขการสนับสนุนทั้งในรูปแบบส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) และ Feed in Tariff (FiT) ผ่านการอุดหนุนราคารับซื้อไฟฟ้าในกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) เพื่อให้การอุดหนุน Adder และ Feed in Tariff (FiT) สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และทำให้ค่าไฟสามารถปรับลดลงได้ทันทีประมาณหน่วยละ 17 สตางค์ จากค่าไฟฟ้าในปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่หน่วยละ 4.15 บาท

โดยก่อนหน้านี้ช่วงวิกฤติการณ์ราคาพลังงาน 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้ามีราคาที่สูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อการปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าต่อเนื่อง และ กกพ. เองก็ได้รับมอบหมายจากภาคนโยบายให้ทำการศึกษาทบทวนมาตรการบรรเทาผลกระทบค่าไฟฟ้า เพื่อลดค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน ซึ่ง กกพ. ได้นำเสนอมาตรการในหลายๆ ทางเลือกเพื่อบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า และทางเลือกหนึ่งขณะนั้น คือ ทบทวนและปรับปรุงเงื่อนไขการรับซื้อไฟฟ้าจากกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า SPP และ VSPP พลังงานหมุนเวียน โดยขณะนี้ กกพ. เห็นว่า ปัจจุบันสถานการณ์เหมาะสม จึงได้หยิบยกขึ้นมาหารือ และให้สำนักงาน กกพ. นำเสนอภาคนโยบายเพื่อทบทวน และเป็นทางเลือกในการลดค่าไฟให้พี่น้องประชาชนได้อีกทางหนึ่ง
 

กกพ.ชี้ช่องลดค่าไฟ 17 สตางค์ เหลือ 3.98 บาท/หน่วย

ที่ผ่านมา การรับซื้อไฟฟ้าจากกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าดังกล่าวเมื่อครบกำหนดอายุสัญญารับซื้อไฟก็ได้รับการต่อสัญญาในเงื่อนไขเดิมและให้ได้รับการอุดหนุนราคารับซื้อมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีโรงไฟฟ้าที่อยู่ในเกณฑ์นี้กว่า 533 ราย คิดเป็นปริมาณการผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 3,940 เมกะวัตต์ที่ได้รับประโยชน์มาต่อเนื่อง

ปัจจุบันผู้ประกอบการกลุ่มนี้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง มีความพร้อมและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนราคาลดที่ทำให้เกิดการลดลงต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง จึงน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเสนอให้ทบทวนเงื่อนไขการรับซื้อดังกล่าว โดยมองว่า การต่ออายุโรงไฟฟ้าควรพิจารณาถึงต้นทุนจริงในปัจจุบันมากกว่าการต่ออายุสัญญาแล้วรับซื้อไฟฟ้าที่สูง เพราะปัจจุบันต้นทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนลดลงอย่างแสงอาทิตย์ไม่เกิน 2.16 บาทต่อหน่วยเท่านั้น

กกพ.ชี้ช่องลดค่าไฟ 17 สตางค์ เหลือ 3.98 บาท/หน่วย

นายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา กรรมการกำกับกิจการพลังงานกล่าวว่า ปัญหาการรับซื้อไฟฟ้าในโครงการ Adder และFiT ซึ่งมีต้นทุนรับซื้อไฟฟ้าสูงกว่าราคาต้นทุนจริงในภาวะปัจจุบัน และโครงการผลิตไฟฟ้าแบบ Adder เหล่านี้ไม่มีวันสิ้นสุดสัญญา เป็นเหตุให้ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น และเป็นหน้าที่ กกพ. ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 มาตรา 65(1) ซึ่งบัญญัติไว้ว่าภายใต้นโยบายและแนวทางที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติให้ความเห็นชอบ ให้คณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าบริการของผู้รับใบอนุญาตแต่ละประเภท โดยมีแนวทางต้องสะท้อนต้นทุนแท้จริง และคำนึงถึงผลตอบแทนที่เหมาะสมการลงทุนของการประกอบกิจการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ หากมีการปรับปรุงราคารับซื้อไฟฟ้ากลุ่ม Adder และ Feed in Tariff ให้สะท้อนต้นทุนแท้จริงเช่น ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รับซื้อในอัตราค่าไฟฟ้าขายส่งหน่วยละ 3.1617 บาท บวกกับค่าส่วนเพิ่มราคา

กกพ.ชี้ช่องลดค่าไฟ 17 สตางค์ เหลือ 3.98 บาท/หน่วย

รับซื้อไฟฟ้า (Adder) หน่วยละ 8 บาท (10 ปี) รวมแล้วเป็นค่าไฟฟ้าหน่วยละ 11.1617 บาท ซึ่งแพงกว่าอัตรารับซื้อที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คำนวณไว้ในโครงการการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 - 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 และในส่วนเพิ่มเติม พ.ศ. 2567 หน่วยละ 2.1679 บาท หลายเท่าตัวหรือมีส่วนต่างหน่วยละ 8.9938 บาท

ทั้งนี้ คาดว่าจะไม่กระทบต่อผู้ประกอบการด้วย 2 เหตุผลคือ 1.ผู้ประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าผ่านจุดคุ้มทุนแบบ Adder และได้รับค่าตอบแทนจากโครงการพอสมควร จึงควรปรับค่าไฟฟ้าให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และ2. การรับซื้อไฟฟ้าในอดีตหน่วยละ 11.1617 บาท เนื่องจากอุปกรณ์การผลิตไฟฟ้าจากแผงพลังงานแสงอาทิตย์มีต้นทุนสูง แต่ในปัจจุบันราคาอุปกรณ์ดังกล่าวลดลงมาก ราคาไฟฟ้าที่รัฐรับซื้อควรลดลงตามมาด้วยเช่นกัน หรือแม้โครงการผ่าน 10 ปีและเงินอุดหนุน 8 บาทหมดไปแล้ว แต่ราคารับซื้อก็ยังอยู่ที่ 3.1617 บาท ซึ่งแพงกว่าราคาที่ สนพ. คำนวณในปี 2565 หน่วยละ 2.1679 บาท ซึ่งมีส่วนต่างเป็นเงินหน่วยละ 9.938 บาท ถือเป็นกำไรที่ผู้ประกอบการไม่ควรได้รับ

กกพ.ชี้ช่องลดค่าไฟ 17 สตางค์ เหลือ 3.98 บาท/หน่วย

ประการสำคัญสัญญารับซื้อไฟฟ้าในกลุ่มนี้ระบุว่าให้ต่อสัญญาโดยอัตโนมัติ หมายความว่าไม่มีวันสิ้นสุดสัญญา หากไม่มีการปรับปรุงอัตราการรับซื้อไฟฟ้าให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ผู้ประกอบกิจการก็จะได้กำไรเกินควร อันเป็นการสร้างภาระให้กับประชาชนโดยไม่มีวันสิ้นสุด