svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Business thai

"พาณิชย์" ล้อมคอกคุมเข้มหัวจ่ายน้ำมัน-ป้องกันเติมไม่เต็มลิตร

กรมการค้าภายในถกผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 จ่อคุมหัวจ่ายน้ำมันตั้งค่าให้เป็นบวกมากกว่า 0 ป้องกันเติมน้ำมันไม่เต็มลิตร  สั่งผู้ค้าน้ำมันรายงานข้อมูลทุกเดือน นัดบอร์ดชั่งตวงวัด ทบทวนปรับค่าเผื่อเหลือเผื่อขาดหัวจ่าย ให้ต่ำกว่า 1% เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค 

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ได้แก่ ปตท. บางจาก พีที เอสโซ่ ทีพีไอ ซัสโก้ เชลล์ คาลเท็กซ์ และพี โอ ออยล์ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาหัวจ่ายสถานีบริการน้ำมันบางแห่งเติมน้ำมันไม่เต็มลิตรว่า

ที่ประชุมได้มีมติร่วมกันเพิ่มความเข้มงวดดูแลหัวจ่ายน้ำมัน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยให้ทุกสถานบริการตั้งค่าหัวจ่ายให้จ่ายน้ำมันมากกว่าศูนย์ โดยเป็นมาตรการที่สมัครใจร่วมกัน หลังจากเกิดกรณีดรามา เติมน้ำมันได้ไม่เต็มลิตร และนายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมหารือร่วมกับผู้ค้าน้ำมัน เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้  

นอกจากนี้ ได้เพิ่มความเข้มงวดจากเดิมในการตรวจสอบรับรองหัวจ่ายน้ำมัน จะมีการตรวจทุก 2 ปี และมีการตั้งค่าอยู่ที่ศูนย์ และในระหว่าง 2 ปี จะมีการตรวจสอบหัวจ่ายเป็นประจำ ตามรอบที่กำหนด และตรวจพิเศษในช่วงเทศกาล แต่จากนี้ จะมีการตั้งค่าให้บวกขึ้นจากศูนย์มานิดนึง จากนั้นจะมีการตรวจสอบซ้ำ หากตรวจแล้ว จ่ายน้ำมันเกิน หรือเป็นศูนย์ก็ถือว่าปกติ แต่ถ้าจ่ายน้ำมันขาด ติดต่อกัน 2 ครั้ง แม้จะอยู่ในค่ามาตรฐานบวกลบไม่เกิน 1% ก็จะสั่งให้หยุดการใช้หัวจ่าย และต้องปรับปรุง ตรวจรับรองใหม่ให้ถูกต้อง 

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ในการตรวจรับรองหัวจ่ายน้ำมัน จะมีการตั้งค่าไว้ที่ 0 และมีการซีลหัวจ่าย ผู้ค้าน้ำมันไม่สามารถแกะออกได้ ถ้าชำรุด หรือแกะออกจะมีความผิด

โดยยอมรับว่า หัวจ่ายน้ำมันเป็นระบบเครื่องจักร ซึ่งหากใช้ไปนาน ๆ อาจจะมีความเสื่อม ทำให้จ่ายน้ำมันขาดไปบ้าง แต่ที่ขาดไป ก็ไม่ได้ลดกว่าอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดตามที่กฎหมายกำหนด แต่หลังจากคุยกันครั้งนี้แล้ว ผู้ประกอบการยินดีที่จะตั้งค่าให้เกินกว่า 0 เพื่อไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นอีก พร้อมกับจะมีการรายงานผลการตรวจสอบหัวจ่าย มาให้กรมรับทราบเป็นประจำทุกเดือน

ขณะเดียวกันเตรียมประชุมคณะกรรมการชั่งตวงวัด เพื่อทบทวน หลักเกณฑ์ค่าความคาดเคลื่อนที่สามารถยอมรับได้ ที่กำหนดให้บวกลบน้อยกว่า 1% เพื่อดูว่าอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดใดที่มีความเหมาะสมและทำให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

ส่วนการตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันตั้งแต่เดือน ส.ค.66 ถึงปัจจุบัน ได้ตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันแล้ว 14,000 แห่ง กว่า 180,000 หัวจ่าย พบว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย 34 สถานี 281 หัวจ่าย ในจำนวนนี้เป็นกรณีที่ใช้หัวจ่ายน้ำมันที่สิ้นอายุเครื่องหมายคำรับรอง 15 สถานี จำนวน 241 หัวจ่าย เป็นกรณีที่หัวจ่ายน้ำมันคลาดเคลื่อนเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด  19 สถานี จำนวน 40 หัวจ่าย

นอกจากนี้เป็นการจ่ายน้ำมันเกินกว่าปริมาณที่กำหนด 14 สถานี 29 หัวจ่าย คิดเป็น 0.016% ของหัวจ่ายที่ตรวจสอบทั้งหมด และเป็นการจ่ายน้ำมันขาดจากปริมาณที่กำหนด 5 สถานี 11 หัวจ่าย คิดเป็น 0.006% ของหัวจ่ายทั้งหมด ซึ่งกรมได้ผูกบัตรห้ามใช้ จนกว่าจะแก้ไขให้ถูกต้องและเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบให้คำรับรองก่อน พร้อมทั้งได้ดำเนินคดีแล้วทุกราย

สำหรับโทษกรณีที่สถานีบริการน้ำมันจ่ายน้ำมันคลาดเคลื่อนเกินกฎหมายกำหนด หรือกรณีใช้หัวจ่ายน้ำมันที่สิ้นอายุเครื่องหมายคำรับรอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีดัดแปลงหัวจ่ายเพื่อให้เกิดความคลาดเคลื่อน มีจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท 

นอกจากนี้กรมฯ ยังขอให้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายกำหนดมาตรการลงโทษสถานีบริการน้ำมันที่ทำผิด ตามเงื่อนไขทางการค้า หรือตามเงื่อนไขการจ้างงานอีกด้วย

ส่วนการเติมน้ำมันแต่ละครั้งขอให้ สังเกตป้ายราคาน้ำมันต่อลิตรที่ระบุหน้าสถานีบริการน้ำมันตรงกับตู้จ่ายน้ำมันหรือไม่  รวมถึงดูตู้จ่ายน้ำมันตามสถานีบริการต้องมีสติ๊กเกอร์วงกลมของกรมการค้าภายใน (มีรูปครุฑสีแดง  ระบุว่าตรวจสอบแล้ว  แสดงปี พ.ศ. ปัจจุบันอยู่ด้านล่าง) หากมีสติ๊กเกอร์ดังกล่าวติดอยู่แสดงว่าได้มีการตรวจสอบแล้ว

ทั้งนี้สังเกตุก่อนเติมน้ำมันยอดขายและจำนวนลิตร ต้องเป็นเลขศูนย์ และ เมื่อเติมเสร็จให้ดูยอดขายและจำนวนลิตรให้ถูกต้อง หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569 หรือทางไลน์ @MR.DIT