
16 พฤศจิกายน 2566 เวลา 16.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น ที่นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่า นักลงทุนรายย่อยนัดหยุดเทรดในวันที่ 20 พ.ย.นี้ จากวิกฤตความเชื่อมั่นว่า ยังไม่ทราบว่ามีปัญหาเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องมีการสอบถาม
ทั้งนี้ในระยะยาว รัฐบาลไม่ได้ออกมาตรการที่เป็นลบต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) แต่พยายามทำหลายๆ อย่างให้ดีขึ้น แต่จะดีมากหรือน้อยลง ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของนักลงทุน
นายกฯ กล่าวต่อ วันจันทร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) ได้ให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกฯ ไปหารือกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) จึงไม่ทราบว่าอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้หรือไม่
ส่วนกรณีการขายชอร์ต (Short Selling) ที่เชื่อว่าจะมีการเมืองมาแทรกแซงในตลาดหุ้นนั้น นายกฯ กล่าวว่า ก.ล.ต. ตรวจสอบแล้วไม่มี และ ตนเองอยากถามกลับว่า เขาจะให้ทำอะไร คุยกับใคร ซึ่งการที่ให้ นายกิตติรัตน์ ไปหารือกับก.ล.ต. มีแต่สถานการณ์ดีขึ้น แต่ดีมากหรือดีน้อย ไม่ทราบ อยากจะให้ตนเองทำอะไร ขอให้บอก ไม่ใช่ไม่อยากทำ เพราะการพูดคุยกับนักลงทุนรายย่อย ซึ่งมีเป็นแสนคนจะให้ไปคุยกับใครบ้าง ภาษีจากธุรกรรมการขายก็ไม่ได้เก็บภาษี กำไรจากขายหุ้นก็ไม่ได้เก็บ นโยบายการลงทุน กองทุนเอทีเอฟก็ออกมาให้ตามที่ต้องการ หากจะต้องการอะไรบอกมา ไม่ได้ประชด หรือ ว่าอารมณ์เสีย แต่อยากรู้ความต้องการ เพื่อจะได้จัดให้ และ มีอะไรใหม่ที่อยากได้
“ผมไม่ได้อะไรเลยเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ ผมไม่ได้ยุ่ง ไม่ได้รบกวน ไม่ได้ไปทำให้ใครมีปัญหา ซึ่งวันนั้นผมก็อารมณ์เสียใส่ ดีเอสไอไปเรื่องหุ้นมอร์ และหุ้นสตาร์ค ซี่งเป็นเรื่องสำคัญที่ความไว้วางใจในตลาดมีน้อย เรื่องเกิดมานานเท่าไหร่ ยังไม่จบเสียที ติดอยู่ที่ดีเอสไอ ไม่ใช่เรื่องหมูอย่างเดียว” นายกฯ กล่าว