
9 มิถุนายน 2566 นางธีรารัตน์ สมพงษ์ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลสรุป ข้อมูลเอกภาพไม้ผลภาคตะวันออก ปี 66 โดย สศก. ร่วมกับคณะทำงานย่อย เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ ภาคตะวันออก สรุปตัวเลขเอกภาพ ปริมาณผลผลิตของไม้ผล 4 ชนิด ได้แก่
ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัด (ระยอง จันทบุรี ตราด) สรุปปี 66 ปริมาณผลผลิตรวมทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 1,053,328 ตัน ลดลงจากปี 65 ที่มีจำนวน 1,262,899 ตัน (ลดลง 209,571 ตันหรือร้อยละ 17) โดย ลองกอง ลดลงมากที่สุดร้อยละ 62 รองลงมา มังคุด ลดลงร้อยละ 45 เงาะ ลดลงร้อยละ 35 และทุเรียน ลดลงร้อยละ 3
มีสาเหตุจาก การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ที่มีฝนตกชุกช่วงปลายปี 65 ต่อเนื่องถึงต้นปี 66 สลับกับอากาศหนาวเย็น ไม่เอื้ออำนวยต่อการออกดอก และติดผลของไม้ผล อีกทั้งได้รับผลกระทบจากลมพายุ ลมแรง หลายรอบในช่วงเดือน ธ.ค. 65 - ต้นเดือนเม.ย. 66 ทำให้ดอกและลูกร่วงเสียหาย
ทั้งนี้ ผลผลิตได้ทยอยออกสู่ตลาด ตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา และจะออกต่อเนื่อง จนถึงเดือน ก.ย. 66 โดยผลผลิตจะออกมากที่สุด ช่วงเดือน เม.ย. 66 หลังเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นไป ต่อเนื่องถึงกลางเดือนพ.ค. 66 คิดเป็นร้อยละ 55 ของผลผลิตทั้งหมด
ด้านผลผลิตต่อไร่ ของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด พบว่า มีจำนวน 1,604 กิโลกรัม/ไร่ ลดลงจากปี 65 ที่มีผลผลิต 1,845 กิโลกรัม/ไร่ เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของไม้ผล ที่อยู่ในระยะออกดอก ไม่สามารถพัฒนาเป็นระยะติดผลได้ บางส่วนแตกใบอ่อน แทนการออกดอก
อีกทั้ง ทุเรียน ซึ่งเป็นไม้ผลหลัก ไม่สามารถรักษาโรครากเน่าโคนเน่า จากเชื้อราไฟทอปธอร่า (Phytophthora) และโรคกิ่งแห้งทุเรียน จากเชื้อราฟิวซาเรียม (Fusarium) นอกจากนี้ ยังพบเพลี้ยไฟระบาด ทำให้ต้นไม่สมบูรณ์ ให้ผลผลิตได้ไม่เต็มต้น
ประกอบกับมีต้นที่เริ่มให้ผลผลิต ปี 66 เป็นปีแรก เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งต้นที่ให้ผลใหม่ปีแรก ผลผลิตต่อไร่ยังไม่มาก เมื่อคำนวณโดยค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก ส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่ลดลง
นางธีรารัตน์ กล่าวว่า สถานการณ์การผลิตไม้ผลทั้ง 4 ชนิด ขณะนี้ ทุเรียน ออกดอกแล้วร้อยละ 100 เริ่มเก็บเกี่ยวตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. จนถึงเดือน ส.ค.66 ทุเรียนที่เก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงแรก คือทุเรียนพันธุ์เบา และทุเรียนที่บังคับสารออกดอก คือ ทุเรียนพันธุ์กระดุม พวงมณี ชะนี และหมอนทองบางส่วน โดยทุเรียนจะออกสู่ตลาดมากที่สุด ในกลางเดือน เม.ย. ต่อเนื่องถึงกลางเดือน พ.ค. 66 ร้อยละ 55 ของผลผลิตทั้งหมด
มังคุด ออกดอกแล้วร้อยละ 81 การเติบโตระยะผลเล็ก ผลกลาง ผลโต ทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิต เริ่มเก็บเกี่ยวตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. จนถึงต้นเดือน ส.ค. 66 ปีนี้ โดยมังคุดจะออกสู่ตลาดมากที่สุด ในเดือน มิ.ย.66 ร้อยละ 41 ของผลผลิตทั้งหมด
เงาะ ออกดอกร้อยละ 99 ส่วนใหญ่อยู่ในระยะผลอ่อน ผลเล็ก เริ่มสร้างเนื้อ และเริ่มเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งเงาะที่เริ่มเก็บเกี่ยวได้แล้วบางส่วน คือเงาะสีทองของจังหวัดตราด เงาะเริ่มเก็บเกี่ยวตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. จนถึงต้นเดือน ส.ค. 66 โดยเงาะจะออกสู่ตลาดมากที่สุดในเดือน พ.ค. 66 ร้อยละ 31 ของผลผลิตทั้งหมด
และ ลองกอง ออกดอกแล้วร้อยละ 59 ส่วนใหญ่อยู่ในระยะตั้งช่อดอก และเริ่มติดผลอ่อนบ้างเล็กน้อย ปีนี้ลองกองติดผลช้ากว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีฝนตกชุกช่วงปลายปี 65 ต่อเนื่องถึงต้นปี 66 ทำให้ต้นลองกอง ไม่อยู่ในระยะกักน้ำ ต้นไม่ขาดน้ำ ใบเขียวไม่สลด ส่วนลองกองที่ออกดอกก่อนหน้า ถูกฝนชะดอก ดอกฝ่อ ไม่สามารถพัฒนาเป็นช่อดอกได้ โดยลองกองสามารถออกดอกได้ทั้งปี โดยคาดว่าดอกชุดหลังจะออกในช่วงปลายเดือน เม.ย. 66 ผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุด ในปลายเดือน มิ.ย. ต่อเนื่องเดือนก.ค.66 ร้อยละ 55 ของผลผลิตทั้งหมด
สำหรับแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ ในปี 66 ทั้ง 3 จังหวัด ได้กำหนดมาตรการ ควบคุมป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ออกสู่ตลาด โดยประกาศกำหนด วันเก็บเกี่ยวทุเรียน 4 พันธุ์ ดังนี้ พันธุ์กระดุม และพันธุ์พวงมณี เก็บเกี่ยวได้วันที่ 10 มี.ค. 66 พันธุ์ชะนี เก็บเกี่ยวได้วันที่ 20 มี.ค. 66 และ พันธุ์หมอนทอง เก็บเกี่ยวได้วันที่ 15 เม.ย. 66
หากเกษตรกรจะเก็บเกี่ยวทุเรียน ก่อนวันกำหนด ต้องนำตัวอย่างทุเรียน ไปตรวจเปอเซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียน ณ สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ จุดบริการ สถาบันที่เข้าร่วมโครงการ ส่วนของล้งส่งออก ต้องแจ้งด้านตรวจพืชจันทบุรี หรือ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 (สวพ.6) จังหวัดจันทบุรี เพื่อสุ่มตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียน ก่อนปิดตู้ส่งออก
โดยกำหนดค่าเฉลี่ยของเปอร์เซ็นต์ น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียนขั้นต่ำ ของ พันธุ์กระดุม ไม่น้อยกว่า 27 เปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้ง พันธุ์ชะนี และ พันธุ์พวงมณี ไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้ง และ พันธุ์หมอนทอง ไม่น้อยกว่า 32 เปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้ง หากต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดถือว่า เป็นทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ซึ่งผู้ใดจำหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพ จะใช้มาตรการทางการปกครอง และมาตรการทางกฎหมาย เพื่อลงโทษผู้กระทำผิด
สำหรับในปี 66 เครือข่ายพิทักษ์ทุเรียนไทย มีแนวทางในการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพทุเรียนหมอนทองภาคตะวันออก โดยการรวมกลุ่มของเกษตรกรผู้ผลิต ล้งส่งออก ผู้ประกอบการ ที่มีความสมัครใจ ในการตัดและรับซื้อทุเรียนคุณภาพ ที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้ง ในเนื้อทุเรียนหมอนทองเพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 35 เปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้ง จากที่มาตรฐานกำหนดไว้ ไม่น้อยกว่า 32 เปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้ง
โดยล้งรับซื้อ เป็นผู้จ่ายส่วนต่างค่าแขวนที่น้ำหนักหายไป ระหว่างรอตัดทุเรียน ตามเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งที่เพิ่มขึ้น เพื่อผู้บริโภคปลายทางประเทศจีน ได้ซื้อทุเรียนที่มีคุณภาพบริโภค โดยสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 (สสก.3) จังหวัดระยอง สำนักงานเกษตรจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด (ระยอง จันทบุรี ตราด) สนับสนุนเกษตรกร ที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ มีล้งส่งออกที่สนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว รวมจำนวน 28 ล้ง
ทั้งนี้ สสก.3 ได้นำข้อมูลเอกภาพนี้ไปบริหารจัดการ ในการจัดตั้งวอร์รูมเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ทั้งปริมาณการออกสู่ตลาดและราคาขายรายวัน โดยเริ่มรายงานตั้งแต่ 12 เมษายน 2566 เป็นต้นไป หากท่านใดที่สนใจข้อมูลเอกภาพไม้ผลภาคตะวันออก สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.6 โทร 0 3835 2435 หรืออีเมล [email protected]