
จากที่หลาย ๆ ธนาคารได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการโมบายแบงกิ้งแอปพลิเคชั่นของธนาคาร ให้นำบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน เข้าไปอัพเดตข้อมูล และ สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน (e-KYC) ที่สาขาใกล้บ้าน พบว่ามีธนาคาร 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกร และ ธนาคารกรุงไทย เปิดให้บริการ ให้ลูกค้ายืนยันตัวตนที่เครื่อง ATM ได้
ธนาคารกสิกรไทย
ระบุดว่า ที่ผ่านมาธนาคารได้เก็บใบหน้าของลูกค้าจากการเปิดบัญชี หรือทำธุรกรรมกับธนาคารอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นลูกค้าส่วนใหญ่ สามารถทำธุรกรรมผ่าน K PLUS ได้ทันที โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ยกเว้นลูกค้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้เท่านั้น ต้องลงทะเบียนใบหน้าใหม่ โดยนำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนที่ตู้ ATM ของธนาคารกสิกรไทย หรือติดต่อสาขา เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค. 2566 เป็นต้นไป
ธนาคารกรุงไทย
ระบุว่า ธนาคารมีตู้ ATM ที่ให้ยืนยันตัวตนได้เกือบ 4,000 ตู้ แต่เฉพาะตู้ ATM “สีเทา” เท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาเคยใช้ยืนยันตัวตนผู้ที่ใช้งานแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ดังนั้น หากผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่น “กรุงไทย Next” ที่เคยยืนยันตัวตน “เป๋าตัง” มาแล้ว ก็ไม่ต้องไปยืนยันตัวตนรอบนี้ก็ได้ แต่หากไม่มั่นใจก็นำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนพร้อมสแกนหน้าได้ โดยปัจจุบันฐานลูกค้า “กรุงไทย Next” มีทั้งสิ้น 16 ล้านราย ส่วนฐานลูกค้า “เป๋าตัง” อยู่ที่ 40 ล้านราย
สำหรับธนาคารอื่นๆ ยังต้องไปยืนยันตัวตนและสแกนหน้า ในธนาคารสาขาเท่านั้น
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อัปเดตธนาคารที่เตรียมความพร้อมให้ลูกค้ายืนยันตัวตน เพื่อยกระดับความปลอดภัย เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมผ่านแอป mobile banking ตามเงื่อนไข
1.โอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป/ครั้ง และยอดรวมของการโอนเงินทุก 200,000 บาท/วัน
2.ปรับเพิ่มวงเงินทำรายการตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป/ครั้ง
ประกอบด้วย