นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังกระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย ในเดือนมีนาคม 2566 เท่ากับ 107.76 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเท่ากับ 104.79 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป สูงขึ้น2.83% แต่ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และต่ำสุดในรอบ 15 เดือน
สาเหตุสำคัญ มาจากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และ สินค้าอาหารที่ราคาชะลอตัว เกือบทุกกลุ่มสินค้า ทั้งไข่และผลิตภัณฑ์นม ผักและผลไม้ เครื่องประกอบอาหาร และอาหารบริโภคในบ้านและนอกบ้าน ชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยชะลอตัวต่อเนื่อง และมั่นใจว่า ปีนี้จะเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่กำหนดไว้
โดยได้ปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2566 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เศรษฐกิจในปัจจุบัน จากระหว่าง 2.0 – 3.0 % (ค่ากลาง 2.5%) เป็นระหว่าง1.7 – 2.7% (ค่ากลาง 2.2%)
นายบุณย์ธีร์ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ (ข้อมูลล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์2566) พบว่า เงินเฟ้อไทยต่ำเป็นอันดับที่ 20 จาก 134 เขตเศรษฐกิจที่มีการประกาศตัวเลข ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีกว่าหลายเขตเศรษฐกิจ อาทิ สหรัฐอเมริกา อิตาลีสหราชอาณาจักรเม็กซิโกอินเดีย และ เกาหลีใต้รวมถึงต่ำเป็นอันดับ 2 จาก 7 ประเทศอาเซียนที่ประกาศตัวเลข คือ ทั้งลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์อินโดนีเซียและเวียดนาม
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้ประสานความร่วมมือ กับ ผู้ประกอบการ ตลอดจนหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์และ หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อติดตาม ดูแล และแก้ไขสถานการณ์และปัญหาทางการค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน