อากาศร้อน ดันยอดใช้ไฟพุ่ง! ทำค่าพีกนิวไฮ ทะลุ 32,154.4 เมกะวัตต์
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เผยยอดความต้องการใช้ไฟฟ้าเกิดพีกรอบใหม่ ในคืนที่ผ่านมา (6 เม.ย. 66)ที่ ระดับ 32,154.4 เมกะวัตต์ คาดทั้งปียอดใช้ไฟฟ้าพุ่ง ทำสถิติใหม่แซงหน้าปี 2565
อุณหภูมิที่สูงขึ้นทะลุ 40 องศาเซลเซียส ทำให้ยอดการใช้ไฟฟ้าโดยรวมของประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ของระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับขึ้นไปทำนิวไฮนอบใหม่
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2566 เวลา 20.52 น. ที่ระดับ 32,154.4 เมกะวัตต์ ที่ระดับอุณหภูมิ 31.2 องศาเซลเซียส ขณะที่สถิติความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของไทย เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 27 เมษายน 2565 เวลา 22.36 น. ที่ระดับ 32,254.50
สำหรับสถิติความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ของระบบ จากกฟผ. 5 ปีย้อนหลังได้แก่
- ปี 2561 ค่าพีกสูงสุด เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 24 เมษายน 2561 เวลา 20.30 น. ที่ระดับ 28,338.10 เมกะวัตต์
- ปี 2562 ค่าพีกสูงสุด เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 2 พฤษภาคม 2562 เวลา 22.27 น. ที่ระดับ 30,853.20 เมกะวัตต์
- ปี 2563 ค่าพีกสูงสุด เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 12 มีนาคม 2563 เวลา 20.30 น. ที่ระดับ 28,636.70 เมกะวัตต์
- ปี 2564 ค่าพีกสูงสุด เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 3 เมษายน 2564 เวลา 21.03 น. ที่ระดับ 30,135.30 เมกะวัตต์
- ปี 2565 ค่าพีกสูงสุด เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 27 เมษายน 2565 เวลา 22.36 น. ที่ระดับ 32,254.50 เมกะวัตต์
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)ได้ประเมินว่า ภาพรวมจาก 3 การไฟฟ้า (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ. ) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
คาดว่าในปีนี้ ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด จะอยู่ที่ ประมาณ 33,900 – 34,000 เมกะวัตต์ ทำลายสถิติ ปี 2565 ของ 3 การไฟฟ้า ที่เคยพีก ระดับ33,177 เมกะวัตต์ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และ การขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว และ ภาคอุตสาหกรรม
