ธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ เปิดเผยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก (EAP) ฉบับล่าสุดเดือนเม.ย. 2566 โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออก และ แปซิฟิกจะขยายตัว 5.1% ในปีนี้ จากที่เคยคาดการณ์ในเดือนต.ค.ว่าจะขยายตัว 4.6% หลังจากที่ขยายตัว 3.5% ในปี 2565 หากไม่นับรวมจีน เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกมีแนวโน้มที่จะขยายตัว 4.9% ในปีนี้ จากที่เคยคาดการณ์ในเดือนต.ค.ว่าจะขยายตัว 5.0% หลังจากขยายตัว 5.8% ในปี 2565
ส่วนกลุ่ม 5 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม มีแนวโน้มจะขยายตัว 4.9% จากที่เคยคาดการณ์ในเดือนต.ค.ว่าจะขยายตัว 5.1% หลังจากที่ขยายตัว 6.0% ในปี 2565 ขณะที่ไทย คาดว่าจะขยายตัว 3.6% ในปีนี้ ปรับลดลงจากคาดการณ์ในเดือนต.ค.ว่าจะขยายตัว 4.1% หลังจากที่ขยายตัวได้ 2.6% ในปี 2565
ทั้งนี้ธนาคารโลกมองว่า กิจกรรมเศรษฐกิจ ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และ แปซิฟิกนั้น ฟื้นตัวจากภาวะตื่นตระหนกเมื่อไม่นานมานี้ และ กำลังขยายตัว อย่างไรก็ตาม ผลผลิตในหลายประเทศ ยังคงต่ำกว่าระดับ ก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด และ บางประเทศยังคงเผชิญ กับ ปัญหาเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย
โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในระยะใกล้นั้น จะขึ้นอยู่กับพลวัตของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก และ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงการคุมเข้มทางการเงิน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อสูงในสหรัฐ ในระยะยาวนั้น ธนาคารโลกมองว่า เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออก และ แปซิฟิกขยายตัวเร็วและมีเสถียรภาพมากกว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก ส่งผลให้ความยากจนลดน้อยลง เช่นเดียวกับความไม่เสมอภาค ที่ลดน้อยลงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา