นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองของกรมทางหลวง จำนวน 2 สายทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวม 7 วัน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันพุธที่ 12 เมษายน 2566 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันอังคารที่ 18 เมษายน 2566 ดังนี้
ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 12 เมษายน 2566 ถึง เวลา 24.00 น. ของวันที่ 18 เมษายน 2566
นอกจากนี้ จะเปิดให้บริการทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 ช่วง ปากช่อง – สีคิ้ว – ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 12 – 18 เมษายน 2566 ตลอด 24 ชั่วโมง (โดยจัดการจราจรแบบเดินรถทางเดียว ช่วงเดินทางขาออกจากกรุงเทพฯ วันที่ 12 – 14 เม.ย. 66 และช่วงเดินทางขาเข้ากรุงเทพฯ วันที่ 15 – 18 เม.ย. 66)
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยผู้ใช้ทางสามารถติดตาม การรายงานสภาพจริงการจราจร Online แบบ Real time ผ่านแอพพลิเคชั่น M-Traffic (มอเตอร์เวย์) / Thailand Highway Traffic และเฟสบุ๊ค “ศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุกรมทางหลวง”
ย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนลดพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่ “ไม่ขับเร็ว คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกนิรภัย ดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ ไม่ขับรถย้อนศร” รวมทั้ง เตรียมร่างกายให้พร้อมและวางแผนการเดินทางล่วงหน้าโดยให้กลุ่มเดินทางใกล้ (200 - 300 กิโลเมตรจากกรุงเทพมหานคร) เดินทางออกทีหลังและกลับก่อน
หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทาง สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และตำรวจทางหลวง 1193
ทั้งนี้ยังได้สั่งการสำนักงานทางหลวง และ แขวงทางหลวงทั่วประเทศ ดำเนินการตรวจสอบป้ายจราจร สัญญาณไฟจราจร ไฟฟ้าแสงสว่างให้พร้อมใช้งาน ตรวจสอบและแก้ไขจุดเสี่ยงและจุดอันตราย พร้อมบำรุงรักษาทางหลวง ให้อยู่ในสภาพดีและมีรถบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เมื่อผู้ใช้ทางเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสีย อีกทั้งได้ขอความร่วมมือผู้รับจ้างคืนผิวทางในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการ
ซึ่งหากพบว่า มีปริมาณจราจรหนาแน่น บนเส้นทางหลักจะทำการประสานงานกับตำรวจทางหลวง ในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรหรือการเปิดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) เพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
โดยกรมทางหลวง ได้จัดตั้งจุดให้บริการทั่วไทย 393 แห่ง แบ่งเป็นจุดให้บริการทั่วไทย (โดยแขวงทางหลวง/กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ) 119 แห่ง จุดให้บริการตำรวจทางหลวง 205 แห่ง และจุดให้บริการสถานีตรวจสอบน้ำหนักและพักรถบรรทุก 83 แห่ง ซึ่งภายในจุดบริการทั่วไทยจะมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง