svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

สทท. จับมือ รัฐ ตั้งคณะทำงานแก้ปัญหา "ไกด์เถื่อน" เกลื่อนเมือง

28 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชี้ปัญหาไกด์เถื่อน รุนแรงกว่าช่วงก่อนโควิด หลังจีนเข้มงวดธุรกิจในประเทศ ส่งผลทุนจีน ไหลเข้าไทย ครบวงจรการท่องเที่ยว เตรียมจับมือหน่วยงานรัฐ ตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาเร่งด่วน

นายสุรวัช อัครวรมาศ รองประธาน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย หรือ สทท. กล่าวว่า ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ หรือ ทัวร์ต่ำกว่าทุน ปัจจุบันกลับมารุนแรง ยิ่งกว่าช่วงก่อนโควิดแพร่ระบาด กระทบกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยอย่างหนัก โดยเฉพาะชาวจีน มีการนำมัคคุเทศก์ต่างชาติเข้ามาครั้งละ 60-80 คน จัดหาที่พัก และ หางานมัคคุเทศก์ซึ่งตามกฎหมาย เป็นอาชีพที่สงวนไว้ให้แค่คนไทยเท่านั้น

นายสุรวัช อัครวรมาศ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

 

โดยตอนนี้รัฐบาลจีน เข้มงวดกับการทำธุรกิจ ในประเทศมากขึ้น กลุ่มทุนดังกล่าวจึงโยกย้ายมาไทย ทั้งโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ร้านโชว์ แหล่งท่องเที่ยว รวมไปถึงจัดหารถบัสเอง ร้านขายของฝาก และหาวัดให้เช่าพระ โดยให้ผลประโยชน์ ให้กับคนดูแลและควบคุมด้านกฎหมาย จนเรียกได้ว่าเป็น “ทัวร์อั้งยี่”

ทั้งนี้ จากแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2560-2564) มีการประเมิน “ส่วนรั่วไหลของการท่องเที่ยว” ในช่วงก่อนโควิด พบว่ารายได้ท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 18% ของจีดีพีไทย มีอัตราการรั่วไหล 28.37%  หรือกว่า 7 แสนล้านบาท เป็นการสูญเสีย จากการนำเข้าวัตถุดิบเนื้อสัตว์ สุรา เข้ามา เพื่อบริการนักท่องเที่ยว รวมต้นทุนจากสถาบันการเงินในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
 

"หากรวมความเสียหายที่เกิดจาก ทัวร์ศูนย์เหรียญเข้าไป  หากประเมินเบื้องต้น จากตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 11 ล้านคน ในช่วงปี 2562 ซึ่งมี การใช้จ่ายต่อคนต่อทริปราว 50,000 บาท คาดว่าจะสูญเสียเป็นหลักแสนล้านเช่นกัน" นายสุรวัช กล่าว 

ประกาศ รับสมัคร คนเวียดนาม เป็น มัคคุเทศก์ทำงานในไทย

อย่างไรก็ตามทาง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ร่วมหารือกับกรมการท่องเที่ยว และเตรียมตั้งคณะทำงานร่วม เพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์จะฟื้นคณะทำงาน แก้ปัญหาธุรกิจ นอมินีที่มีอยู่แล้ว เข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย 

ด้านนายไพศาล ซื่อธานุวงศ์ กรรมการสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังหารือด่วนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ ได้เดินหน้ายื่นเรื่อง ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้แก้ปัญหาเร่งด่วน ทั้งยื่นหนังสือต่อสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ซึ่งอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวหลักของกรุงเทพฯ และ เรียกร้องไปยังกรมการจัดหางานให้เร่งกวดขัน

นายไพศาล ซื่อธานุวงศ์ กรรมการสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย

ล่าสุดอยู่ระหว่าง ขอความเห็น จากสมาชิกมัคคุเทศก์ ต่อ “ร่างประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดให้มีมัคคุเทศก์ ต่อจำนวนนักท่องเที่ยว พ.ศ. ....”  กรณี “กรุ๊ปทัวร์ที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่า 12 คน ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวไม่จำเป็น ต้องจัดให้มีมัคคุเทศก์ก็ได้”

ซึ่งมองว่า หาก พรบ.นี้ผ่าน จะทำให้มัคคุเทศก์ต่างชาติ ในคราบหัวหน้าทัวร์ สามารถพาทัวร์กรุ๊ปเล็กได้โดยสะดวก ชนิดที่ไม่ต้องใช้ซิตติ้งไกด์ (ซิตติ้งไกด์คือกลุ่มคน ที่ได้บัตรไกด์ แต่กลับพูดภาษาไม่ได้สักภาษา นั่งบนรถบัส รถตู้ เพื่อช่วยคุ้มกัน ปกป้องไกด์เถื่อนต่างชาติจากตำรวจท่องเที่ยว) ด้วยซ้ำ

มัคคุเทศก์ต่างชาติ ในคราบหัวหน้าทัวร์

อีกทั้งการตรวจสอบใดๆ ของทัวร์รถตู้ จะทำได้ยากมาก เพราะเมื่อกฎหมายผ่าน คนเหล่านี้จะไม่มีกระทั่งใบสั่งงานมัคคุเทศก์(job order) โดยอ้างว่านักท่องเที่ยวไม่ต้องการมัคคุเทศก์  ซึ่งทัวร์กรุ๊ปเล็กนี้เดิมเป็นโอกาสฝึกฝนไกด์ไทยรุ่นใหม่ๆ กลับจะกลายเป็นแหล่งฝึกฝน ของไกด์ต่างชาติรุ่นใหม่ๆไปโดยปริยาย

logoline