นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งล่าสุด กกพ. มีมติให้เปิดรับฟังความความคิดเห็น (ร่าง) หลักเกณฑ์ การกำหนดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว (Utility Green Tariff หรือ UGT) โดยหวังว่าจะช่วยลดอุปสรรคในการปฏิบัติตามเงื่อนไข ภาษีคาร์บอนข้ามแดน ข้อกีดกันทางการค้า ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และ ยังเป็นมาตรการที่สำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยในระยะยาว
นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุน ตามพันธกรณี ประชุมสมัชชาประเทศภาคี อนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change Conference of the Parties: UNFCCC COP) ที่ไทยเป็นสมาชิก และ ได้ร่วมแสดงเจตนารมย์สนับสนุนการมุ่งสู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อจำกัดอุณหภูมิของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส
สำหรับร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้มีการออกแบบ และวางแนวทางไว้ในสองรูปแบบคือ
รูปแบบแรก UGT1 (ไม่เจาะจงที่มา) เป็นการให้บริการเกี่ยวกับ ใบรับรองการผลิตไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) ของโรงไฟฟ้าเดิม ที่รัฐมีกรรมสิทธิ์ มาให้บริการร่วมกับการให้บริการพลังงานไฟฟ้า และ เป็นการให้บริการ ในลักษณะที่ผู้ใช้ไฟฟ้า ไม่ต้องเจาะจงแหล่งที่มาของไฟฟ้า และ REC ในการขอรับบริการ จึงเป็นอัตราค่าบริการส่วนเพิ่ม (Premium) เพิ่มเติมจากอัตราค่าไฟฟ้าตามบิลค่าไฟปกติ โดยผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถสมัครขอรับบริการ ในปริมาณต่ำกว่า 1 REC ได้ (1 REC = 1,000 หน่วย) และ มีระยะเวลาการขอรับบริการสั้น (0-1 ปี)
รูปแบบที่สอง UGT2 (เจาะจงที่มา) เป็นการเปิดให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ไฟมาก และ ต้องการขับเคลื่อน การเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน ในระบบไฟฟ้า เข้ามารับภาระการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ โดยมีสัญญาการรับบริการ นาน (10-25 ปี) และ มีการออกแบบโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ เนื่องจากมีการซื้อพลังงานไฟฟ้าพร้อม REC จากแหล่งพลังงานแบบเจาะจงที่มาในระยะยาว เข้ามาแทนพลังงานไฟฟ้าเดิม และมีการให้บริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
นอกจากนี้ นายคมกฤช ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับเงื่อนไข ความเหมาะสมในแต่ละแนวทางจะมีผลดี และความแตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้า โดย UGT1 จะเหมาะสมกับผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่มากและไม่ต้องการผูกพันสัญญาระยะยาว รวมถึงกลุ่มที่ต้องการไฟฟ้าสีเขียวน้อยกว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด โดยไม่ต้องการเจาะจงผู้ผลิตไฟฟ้า
สำหรับ UGT2 จะเหมาะกับผู้ใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ต้องการพัฒนาโรงไฟฟ้าสะอาดใหม่โดยทำสัญญาระยะยาวที่จะใช้ไฟฟ้าจากแหล่งไฟฟ้านั้น 100% อย่างไรก็ตาม สำนักงาน กกพ. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างหลักเกณฑ์ฯ ฉบับดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 7 มีนาคม 2566 ก่อนที่รวบรวมความคิดเห็น เพื่อประกอบการพิจารณา เห็นชอบหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว ทั้งสองรูปแบบ ภายในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
สำหรับวิธีการ ที่มา และ แนวทางการคำนวณในรายละเอียด สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นได้ทางเว็บไซต์ของสำนักงาน กกพ. (www.erc.or.th) โดยสามารถแสดงความคิดเห็นผ่านกล่องข้อความในหน้ารับฟังความคิดเห็นทางเว็บไซต์ หรือส่งเป็นอีเมล์มาที่ [email protected] โดยระบุถึง ผู้อำนวยการ ฝ่ายนวัตกรรมและพัฒนาการกำกับกิจการพลังงาน และ ระบุหัวข้อการรับฟังความคิดเห็นให้ชัดเจน นอกจากนี้ จะมีการสัมมนาชี้แจง และ รับฟังความคิดเห็น ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ด้วย