สภาพัฒน์ ชี้ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ต้องตรวจสอบสิทธิ์ใหม่ทุกปี

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  กล่าวถึงโครงการ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ"  ว่าขณะนี้กระทรวงคลังได้ตรวจสอบสิทธิอะไรต่างๆเรียบร้อยแล้ว และ เตรียมจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเร็วๆนี้  สำหรับบัตรสวัสดิการฯรอบใหม่ เป็นการช่วยกลุ่มเปราะบาง ให้มีสภาพคล่องในการใช้จ่ายมากขึ้น และเห็นว่าใช้บัตรสวัสดิการฯ ยังเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับกลุ่มเปราะบางในภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน

แต่ประเด็นสำคัญคือ หลังจากนี้ ต้องมีการตรวจสอบผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ทุกปี ใครที่พ้นจากเกณฑ์ที่จะต้องให้ความช่วยเหลือแล้ว ก็ต้องพ้นจากบัตรสวัสดิการฯไป  สำหรับการเพิ่มวงเงินบัตรนั้น  ต้องไปดูว่าเพิ่มวงเงินในส่วนไหน เพราะบัตรวสวัสดิการฯ มีการให้สิทธิ์หลายส่วน บางส่วนอาจจะไม่ค่อยได้ใช้ ส่วนการหาเสียงที่จะมีการเพิ่มเงินนั้น ต้องกลับไปดูว่าจะบริหารได้อย่างไร และ ต้องมาเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ เพื่อให้สวัสดิการฯเหล่านี้ยังคงใช้จ่ายได้ โดยไม่ไปสร้างภาระทางการคลังมากขึ้น และ ไม่ให้เกินงบลงทุนที่อยู่ในกรอบประมาณ 20%

ทั้งนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง เร่งสรุปผลการคัดกรองประชาชนผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อทำการโอนเงินให้กับผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติภายใน 1-2 สัปดาห์ และนำมาเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาโดยเร็ว จากนั้นจะะเตรียมโอนเงินให้ทัน 1 มีนาคม 2566 นี้ตามเป้าหมาย 

ขณะเดียวกัน ได้ย้ำว่าต้องรักษาสิทธิ์ในการสิทธิส่วนบุคคล PDPA โดยต้องให้ประชาชน ผู้มีสิทธิ์ตรวจสอบรายชื่อ รับรู้เท่านั้นห้ามเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อให้ผู้อื่นรับรู้ไม่ได้ หลังจากมีมีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 21.52 ล้านราย ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9.85 ล้านราย ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 11.67 ล้านราย

สำหรับช่องทางตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผ่าน-ไม่ผ่าน มี 3 ช่องทาง ดังนี้

1. ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติด้วยตนเอง ผ่านทางเว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ https://welfare.mof.go.th

2. ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) สำนักงานคลังจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา

3. โทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ