svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

พาณิชย์กางแผนดันภาคการ 'ส่งออก' 10 ล้านล้าน!

10 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกางแผนผลักดันการส่งออกปีนี้โตตามเป้าหมาย 10 ล้านล้านบาท มุ่งขยายตลาดเดิม พร้อมเจาะ 4 ตลาดศักยภาพ ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ CLMV จีน และเพิ่มตลาดใหม่ เอเชียกลางและนอร์ดิก

อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ระบุ กระทรวงพาณิชย์ได้หารือร่วมกับภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ร่วมกันประเมินอัตราการขยายตัวของการส่งออกในปี 2566 ไว้ที่ 1-2% คิดเป็นมูลค่า 10 – 10.1 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 หลังจากยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ การเปิดเส้นทางรถไฟลาว-จีน ตลอดจนค่าระวางเรือมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง และข้อกังวลเรื่อง Food Security ของประเทศต่างๆ ส่งผลบวกต่อการส่งออกสินค้าอาหารของไทย

 

โดยกรมฯ จะเร่งรัดจัดกิจกรรมใน 4 ตลาดศักยภาพ ได้แก่ ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ CLMV และจีน โดยจะจัดกิจกรรมในหลายรูปแบบ ทั้งการจัดงานแสดงสินค้าไทย คณะผู้แทนการค้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ผลักดันค้าขายออนไลน์ โดยกำหนดเป้าหมาย ตะวันออกกลาง ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่า 20% CLMV เพิ่ม 15% เอเชียใต้เพิ่ม 10% และจีนตั้งเป้าเพิ่ม 1% โดยจะปูพรมเพิ่มจำนวนกิจกรรมกระจายในเมืองรองมากขึ้น หลังจากที่จีนเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

พาณิชย์กางแผนดันภาคการ \'ส่งออก\' 10 ล้านล้าน!

นอกจากนี้ ยังมีแผนเจาะตลาดศักยภาพใหม่ๆ ในเอเชียกลาง 5 ประเทศ ได้แก่ คาซัคสถาน อุซเบกิซสถาน เติร์กเมนิสถาน ทาจิกิสถาน และคีร์กีซสถาน โดยนำร่องจัดกิจกรรมกับคาซัคสถานซึ่งมีศักยภาพด้านการค้ากับไทยมากที่สุดในภูมิภาคดังกล่าว และเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าในเอเชียกลาง โดยจะจัดการสัมมนาเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการไทยเพื่อต่อยอดสู่การจัดกิจกรรมเจรจาการค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ต่อไป

รวมถึงตลาดใหม่ที่น่าสนใจอย่างตลาดนอร์ดิก ได้แก่ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศกำลังซื้อสูง และเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าไทยไปสู่สหภาพยุโรป โดยจัดคณะผู้แทนการค้า การจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ เช่น อาหาร เกษตรอินทรีย์ และ สินค้า BCG เป็นต้น

 

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นรักษาตลาดเดิม อย่างสหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น โดยจะส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าสินค้าส่งออกด้วยนวัตกรรม และการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างแบรนด์ ส่งเสริมการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านการค้าระหว่างประเทศรองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ และส่งเสริมธุรกิจบริการ โดยใช้ Soft Power  เช่น ดิจิทัลคอนเทนต์ สุขภาพและความงาม โลจิสติกส์ และร้านอาหาร Thai Select 

          

สำหรับสินค้าเป้าหมายที่จะผลักดัน ได้แก่ สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารแห่งอนาคต ซึ่งสามารถตอบโจทย์ทั้งปัญหาความมั่นคงทางอาหาร กระแสรักสุขภาพ และเทรนด์รักสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย อาหารไทยอาหารโลก ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” อาหารสัตว์เลี้ยง สินค้า BCG หรือ กลุ่มไลฟ์สไตล์และแฟชั่น บรรจุภัณฑ์ สุขภาพและความงาม เพื่อรับมือกับเงื่อนไขการค้าโลกที่มุ่งสู่เศรษฐกิจสีเขียว สินค้าอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

logoline