svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

"นายกฯ" สั่งหามาตรการช่วยเหลือประชาชน รับมือผลกระทบ แท็กซี่ขึ้นราคา

13 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"นายกฯ" มอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน ลดผลกระทบ แท็กซี่ปรับขึ้นค่าโดยสาร ในระยะแรก ย้ำควบคุมมาตรฐานการบริการให้เข้มงวด

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตามที่มีประกาศการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นเป็น 40 บาท สำหรับรถแท็กซี่บรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน รวมทั้งปรับอัตราค่าโดยสาร ตามระยะทาง ให้กับรถแท็กซี่ทุกประเภท ที่จดทะเบียนในพื้นที่กรุงเทพฯ ใหม่ ซึ่งได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาฯ และ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้(13 ม.ค. 2566) 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามและมีความห่วงใยประชาชนที่โดยสารรถแท็กซี่ที่อาจมีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง และ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ติดตามผลกระทบต่อประชาชน และ เศรษฐกิจในภาพรวม จากการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารดังกล่าว เพื่อเสนอแนะมาตรการทางเศรษฐกิจที่เหมาะสม เร่งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน

โฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ก็รับรู้ถึงความเดือดร้อนของคนขับรถแท็กซี่ ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนกลุ่มหนึ่ง ที่ได้รับความเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงสถานการณ์ราคาพลังงานและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นด้วย ในขณะที่ค่าจ้าง-ค่าโดยสารรถแท็กซี่ ไม่ได้มีการปรับขึ้นมาเป็นเวลากว่า 8 ปีแล้ว

โดยการปรับค่าโดยสารในครั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มคนขับแท็กซี่ มีรายได้เพียงพอกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันและยังมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปกำกับดูแลเพิ่มเติม ถึงคุณภาพการบริการ โดยเฉพาะต้องเข้มงวดในเรื่องมารยาทของคนขับรถ ความปลอดภัย ความสะอาด ไม่เอาเปรียบผู้โดยสาร  และต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด หากพบว่าแท็กซี่กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายที่กำหนดในเรื่องบทลงโทษต่อไปโดยไม่ละเว้น

สำหรับรายละเอียดของประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกโดยสาร และค่าบริการอื่น สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2565 บางส่วนระบุถึงการกำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร สำหรับ (1) กรณีรถยนต์รับจ้าง ที่มีลักษณะเป็นรถเก๋งสามตอน รถเก๋งสามตอนแวน รถยนต์นั่งสามตอน และรถยนต์นั่งสามตอนแวน ให้กำหนด ดังต่อไปนี้

ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 40.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 6.50 บาท

ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 7.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 8.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.50 บาท

ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท

ส่วนกรณีรถยนต์รับจ้าง นอกจากข้อ (1) ให้กำหนด ดังต่อไปนี้

ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 35.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 6.50 บาท

ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 7.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 8.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.50 บาท

ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9.00 บาท

ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท

นอกจากนี้ กรณีรถตาม (1) หรือ (2) ไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้กำหนดอัตรานาทีละ 3.00 บาท ส่วนกรณีการจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารหรือระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้เรียกเก็บค่าบริการอื่นเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก 20 บาท

กรณีการจ้างจากท่าอากาศยานดอนเมือง หรือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยรถยนต์รับจ้างนั้น จอดรอคนโดยสารอยู่ในท่าอากาศยาน ณ จุดที่ได้จัดไว้เป็นการเฉพาะ ให้เรียกเก็บค่าบริการอื่นเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก 50 บาท

"นายกฯ" สั่งหามาตรการช่วยเหลือประชาชน รับมือผลกระทบ แท็กซี่ขึ้นราคา

logoline