นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม กล่าวว่า หลังจากได้ประกาศ “สถานะการลงทะเบียน” ของการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 รอบสุดท้ายไปแล้วนั้น พบว่า
ยอดผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลและมีสถานะแสดงข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์” มีจำนวนรวม 19,647,241 ราย จากจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 22,295,183 ราย ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ และ จะทยอยประกาศรายชื่อในเดือน ม.ค. 2566
โดยเมื่อพิจารณาคุณสมบัติผ่าน และ ทำการยืนยันตัวตนแล้ว จะสามารถเริ่มใช้สิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ปี 2566 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2566 นี้ ซึ่งจะสามารถใช้บัตรประชาชนในการรับสิทธิ์ได้เลย เพื่อความรวดเร็วและทันสมัยของข้อมูล ให้สามารถตรวจเช็คอัพเดตได้ทุกปี
นายสันติ กล่าวต่อว่า งบประมาณที่นำมาใช้สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น จะใช้เงินจาก กองทุนสวัสดิการแห่งรัฐที่มีวงเงินอยู่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ถ้าหากวงเงินไม่เพียงพอ ก็สามารถขอจัดสรรจากงบกลางได้
ทั้งนี้เชื่อว่าจากเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ทั้งจากภาคการท่องเที่ยวและบริการจะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น จนสามารถหลุดพ้นจากการใช้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ ทำให้การใช้งบประมาณในส่วนนี้ค่อยๆลดลง
สำหรับเกณฑ์การได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แบ่งเป็น 2 หลักเกณฑ์ ดังนี้ ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 300 บาท ส่วนผู้ที่มีรายได้ 30,000 -100,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 200 บาท
โดยทั้งสองกลุ่มจะได้รับค่าใช้จ่าย ในการเดินทางอีกเดือนละ 500 บาท เงินชดเชยค่าไฟฟ้า(มีเงื่อนไข)ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา(มีเงื่อนไข)ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน และเงินเพิ่มเบี้ยสำหรับผู้พิการอีก 200 บาทต่อเดือน