เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
ชวนให้พินิจพิจารณาเสียเหลือเกิน เมื่อ"ราชกิจจานุเบกษา"ได้เผยแพร่ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐ เพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง พุทธศักราช 2563
สาระสำคัญของระเบียบกกต. เป็นการแจ้งให้ ครม.ซึ่งหมายรวมถึงนายกฯในการพ้นจากตำแหน่ง จากเหตุยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้ง พึงปฏิบัติควรทำอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง ต่อบุคลากรภาครัฐ ทรัพยากรหน่วยงานรัฐ เพื่อไม่เป็นการเอื้อประโยชน์หรือเอาเปรียบในช่วงที่มีการเลือกตั้ง
ไม่ว่าจะเป็นการห้ามใช้ทรัพยากรของรัฐ หรือบุคลากรของรัฐ ออกนโยบาย โครงการ แผนงาน โดยให้มีผลบังคับใช้ในทันทีมีลักษณะเป็นการสร้างโอกาสให้เกิดความไม่ทัดเทียมกันในการเลือกตั้ง
ไม่ควรจัดให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่นอกเหนือจากการประชุมตามปกติ แม้แต่การมอบหมายให้มีการประชุม อบรม หรือสัมมนาบุคลากรของรัฐ หรือเอกชน โดยใช้เงินงบประมาณของหน่วยงานของรัฐหรือเงินของกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ โดยอาจให้มีการแจกจ่ายทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด
รวมไปถึงการใช้ทรัพยากรของรัฐ เช่น คลื่นความถี่ หรือเครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการส่ง วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม หรือใช้งบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์ ของหน่วยงานของรัฐ หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ที่จะเป็น การสร้างโอกาสให้เกิดความไม่ทัดเทียมกันในการเลือกตั้ง
ข้อสังเกต ระเบียบฉบับดังกล่าว เป็นการร่างไว้เมื่อปี 2563 โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้งลงนามประกาศเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2563 หรือเมื่อสองปีที่แล้ว แต่เหตุใด เพิ่งบรรจุไว้ในราชกิจจานุเบกษาและเผยแพร่ออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา
ที่สำคัญ ระเบียบกกต.ข้อ 2 ระบุว่า ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป นั่นหมายความมีการประกาศบังคับใช้อย่างเป็นทางการหลังวันที่ 15 สิงหาคมนี้
จะเป็นเพราะด้วยเหตุงานสารบรรณ สำนักเลขาธิการครม.ที่จัดลำดับเรื่องทยอยตีพิมพ์ ซึ่งก็คล้ายคลึงกับเรื่องอื่นๆไม่ว่าเป็นการออกกฎกระทรวง ระเบียบต่างๆที่ถูกร่างไว้หลายปีเพิ่งเผยแพร่หรือไม่
แต่น่าบังเอิญเสียเหลือเกินที่เว็ปไซต์ราชกิจจาฯ นำมาเผยแพร่ในช่วงวันเวลา ที่สถานการณ์ทางการเมืองชี้วัดวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี "นายกฯ 8 ปี" อยู่บนความไม่แน่นอน จบสิ้นเมื่อใด
ประเหมาะกับสถานการณ์ความไม่แน่นอน แม้แต่นักการเมืองขยับลงพื้นที่หาเสียงตุนคะแนนล่วงหน้า เพราะไม่รู้ชัด ยากหยั่งถึงความคิด "นายกฯประยุทธ์" จะประกาศยุบสภาเมื่อใด
ถึงกระนั้น หากจับอาการของฝ่ายบริหารท่ามกลางกระแสการปล่อยข่าว จะมีการยุบสภาในระยะเวลาอันใกล้นี้ ยังพบอาการทางการเมืองชนิดเรียกว่าเป็นสัญชาติญาณของนักการเมืองที่ต้องตระเตรียมการอะไรต่อมิอะไรให้พร้อมก่อนสภาถูกยุบ
นอกจากระเบียบกกต.ฯ ที่ออกมาในวันที่ 15 ส.ค.อย่างน่าบังเอิญ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 16 ส.ค.65 นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รมว.พลังงาน ออกมายอมรับ การประชุมครม.มีวาระลับ เสนอออกพรก.กู้เงิน 1.5 แสนล้านบาท ค้ำประกัน หนี้กองทุนน้ำมัน
ถือว่าเป็นการเร่งออกเป็นพ.ร.ก.ในสถานการณ์ทางการเมืองไม่แน่นอน ประหนึ่งรับรู้มีอะไรที่ฝ่ายบริหารยังสามารถใช้อำนาจได้ก็ต้องรีบดำเนินการ
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งการในที่ประชุม ครม. เร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 65 ค้างท่อ พร้อมกับสั่งการ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ผลักดันร่างกม.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 ซึ่งกำลังเข้าสู่ที่ประชุมสภาในวาระสองและวาระสามให้เป็นผลสำเร็จ
อีกสัญญาณที่สัมผัสได้ ผ่านการชี้แจงของนายกฯ ด้วยการออกมาเบรกกระทรวงพลังงานปรับขึ้นค่าไฟฟ้ารอบเดือนก.ย.- ธ.ค.ออกไปก่อน เช่นเดียวกับที่ทางรัฐบาลโปรโมทโครงการคนละครึ่งเฟส 5 เอาใจประชาชน หวังสร้างความนิยมรัฐบาลกำลังหดหายให้ฟื้นกลับมาอีกครั้ง ในช่วงสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง
แม้ว่า "ธนกร วังบุญคงชนะ" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาชี้แจงต่อปมข้อสงสัย ระเบียบกกต.ฉบับบังเอิญว่า "คงไม่ใช่การเตรียมพร้อมหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองแต่อย่างใด เพราะหากย้อนไปก่อนหน้านี้กกต. เตรียมความพร้อมเลือกตั้งมาตลอด ทั้งในส่วนของการเลือกตั้งท้องถิ่น การเลือกตั้งเมืองพัทยาและการเลือกตั้งกทม. ที่เตรียมการมาตลอดเวลาอยู่แล้ว และที่สำคัญ พล.อประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า"ไม่มีการยุบสภา"และจะเดินหน้าทำงานให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ต่อไป
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางการเมืองไทยไม่มีอะไรแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นข่าวปล่อยข่าวลือ อย่าลืมว่าหลายครั้ง ข่าวลือมักเป็นจริงก็มี
แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีที่ต้องประเมินสถานการณ์รอบด้านถึงโอกาส ความได้เปรียบและเสียเปรียบทางการเมือง เพราะเป็นผู้มีอำนาจประกาศยุบสภาแต่เพียงผู้เดียว
คลิป>>>