svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

ล้มดีล “ฮุนเซน” ชกใต้เข็มขัด “ฮิงบุนเฮียง” เจ้าพ่อ BHQ ซุ่มรอเปิดฉากรบ

ฝ่ายค้านเย้ยเสียอธิปไตย “ฮุนเซน” แค้นรอเอาคืน “ฮิงบุนเฮียง” ฝังตัว จ.พระวิหาร ซุ่มวางแผนรบยกใหม่

11 พฤศจิกายน 2568 ล้มดีล ทรัมป์ ฮุนเซน ชกใต้เข็มขัด ฮิงบุนเฮียง เจ้าพ่อ BHQ ซุ่มซ่อนรอคอยโอกาส แย่งยึดภูมะเขือ กู้หน้ากองทัพเขมร

 

หายหน้าไป 3 เดือน ฮิงบุนเฮียง กบดาน จ.พระวิหาร เดินเกมจรยุทธป่วนทหารไทย สะสมกำลังรอเปิดสงครามใหญ่

 

สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ตึงเครียดขึ้นมาทันที ภายหลังเหตุการณ์ณ์กำลังพลได้รับบาดเจ็บ จากการเหยียบทุ่นระเบิด บริเวณห้วยตามาเรีย  อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

 

ห้วยตามาเรีย อยู่ห่างจากภูมะเขือ ประมาณ 1.6 กิโลเมตร และเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ ที่ฝ่ายกัมพูชาวางแผน จะเข้าแย่งยึด เพื่อรุกตีช่วงชิงภูมะเขือคืนกลับมา

 

การสูญเสียที่มั่นภูมะเขือ เหมือนสูญเสียอธิปไตย ทำให้ฝ่ายค้านเขมรหยิบประเด็นนี้มาโจมตี สมเด็จฮุนเซน และ ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรี อย่างรุนแรง

 

ด้วยเหตุนี้ จึงมีรายงานว่า สมเด็จฮุนเซน มอบให้ พล.อ.ฮิงบุนเฮียง ผู้บัญชาการทหารหน่วยองครักษ์ BHQ ฝังตัวอยู่ใน จ.พระวิหาร เพื่อหาช่องทางที่จะทวงคืนภูมะเขือกลับมาให้ได้ 

 

หลังสงคราม 5 วัน ทหารไทยยึดพื้นที่ภูมะเขือเบ็ดเสร็จ พร้อมกับวางกำลังตัดเส้นทางลำเลียงของฝ่ายกัมพูชา รวมทั้งเข้ายึดพลาญยาว พลาญหินแปดก้อน ช่องโดนเอาว์ ยึดพื้นที่ตลอดแนวชายแดนกว่า 1.4 ตารางกิโลเมตร

 

ขณะที่ทหารกัมพูชาเฝ้ารอจังหวะเล่นสงครามกองโจร อย่างล่าสุด ทหารเขมรได้ลักลอบรื้อถอนลวดหนาม เข้ามาวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตไทยที่ห้วยตามาเรีย 


พล.อ.ฮิง บุนเฮียง เก็บตัวเงียบ เตรียมเปิดยุทธการใหม่

สมรภูมิภูมะเขือ-ห้วยตามาเรีย
 

ภูมะเขือ หรือ พนมตรอบ(ภาษาเขมร) ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากปราสาทพระวิหาร ประมาณ 2.8 กิโลเมตร เป็นชนวนความขัดแย้งเรื่องพรมแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ปี 2551–2554 และปี 2568

 

ทำไม ห้วยตามาเรีย จึงตกเป็นเป้าหมายของทหารกัมพูชา ซึ่งพื้นที่แห่งติดกับช่องคานม้า ที่มีภูมะเขือ-เขาพระวิหารขนาบข้าง

 

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของไทยเปิดเผยว่า พื้นที่สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์สู้รบรอบใหม่ ก็มีทั้งพื้นที่ ห้วยตามาเรีย ปราสาทตาเมือนธม และภูมะเขือ

 

การที่ทหารกัมพูชาขยับเข้ามาในพื้นที่ห้วยตามาเรีย ย่อมแสดงว่าฝั่งเขารอวันที่จะขึ้นมายึดภูมะเขือ

 

2-3 เดือนที่แล้ว เคยมีข่าวว่า พล.อ.ฮิง บุนเฮียง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชา และ ผบ.หน่วยทหารองครักษ์ (BHQ-Bodyguard Headquarters) ไม่ปรากฏตัวผ่านสื่อเหมือนก่อนสงคราม 5 วัน จนมีข่าวลือว่า เสียชีวิต

 

ภายหลังจึงทราบข่าวว่า พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ไม่ได้เสียชีวิต แต่ยังกบดานอยู่ในแนวหน้า จ.พระวิหาร ตามคำสั่งของสมเด็จฮุนเซน

 

เนื่องจาก “เจ้าพ่อพระวิหาร” พล.อ.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ ต้องไปรักษาตัวที่ประเทศเวียดนาม

 

สมเด็จฮุน เซน จึงมอบให้ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ปฏิบัติงานลับอยู่ที่ จ.พระวิหาร และทำหน้าที่ในแนวหน้าแทน พล.อ.สรัย ดึก 


สมเด็จฮุน เซน และฮิง บุนเฮียง ในฐานทหาร HBQ ก่อนเกิดสงคราม 5 วัน

จับตามือขวาฮุนเซน
 

ช่วงปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ได้ปรากฏตัวที่วัด 2 แห่งใน อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร โดยมีการนำสิ่งของอุปกรณ์และปัจจัยไปถวายแด่พระสงฆ์ที่จำพรรษา

 

นั่นเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง นับแต่มีการหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2568 แล้วเขาหายตัวไป

 

ส่วน พล.อ.นพ รัตนนิมล รองผู้บัญชาการกองบัญชาการทหารองครักษ์ BHQ ได้ทำหน้าที่บังคับบัญชาหน่วยองครักษ์ BHQ จ.กันดาล แทน พล.อ.ฮิง บุนเฮียง

 

หากติดตามความเคลื่อนไหวของเพจ Army Media ก็จะพบว่า ช่วงสัปดาห์ได้มีการโพสต์ภาพเก่าของ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง พร้อมแสดงข้อความ “ขอบคุณนายพลที่ยิ่งใหญ่”

 

หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดเป็นรายที่ 7 เหมือนส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง ถึงทหารเขมรตลอดแนวรบชายแดนไทย-กัมพูชา

 

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งบอกเหตุของสงครามครั้งใหม่ เนื่องจากผู้นำกัมพูชาไม่ยึดตามข้อตกลงดีลสันติภาพ ยังติดนิสัย “นักรบกองโจร” ไม่รักษาสัญญาเยี่ยงสุภาพบุรุษชายชาติทหาร