
เก็บเกี่ยวชัยชนะ ฮุน เซน เป็นต่อฝ่ายแค้น สม รังสี หลังรัฐบาลวอชิงตันกระโดดอุ้ม ดับฝันรัฐบาลพลัดถิ่นไล่ตระกูลฮุน
ฉากทรัมป์ โชว์ดีลสันติภาพ กลบข่าวสมรังสีฉลองตั้งรัฐบาลอิสระที่กรุงปารีส ฝ่ายแค้นเขมรเรียกร้องสหรัฐฯจัดการรัฐบาลมาเฟีย
ฉากละครการเมืองโลก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รับบทพระเอกเรื่องดีลสันติภาพไทย-กัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในวันอาทิตย์ 26 ต.ค.2568 เป็นข่าวใหญ่ดังไปทั่วโลก
วันเดียวกัน สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ในฐานะประธานสภาต่อต้านแห่งชาติกัมพูชา(CNRC) ได้จัดงานฉลองการจัดตั้ง “รัฐบาลอิสระแห่งกัมพูชา 23 ตุลาคม” ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ขณะที่สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ดีลสันติภาพ คือ ผลผลิตของยุทธศาสตร์เงียบแต่ไม่เงียบ ของรัฐบาลฮุน มาเนต
ก่อนหน้านี้ สม รังสี และสมาชิกสภาต่อต้าน CNRC ได้โหมโจมตีตระกูล “ฮุน” ในประเด็นสหรัฐฯ คว่ำบาตรและยึดทรัพย์บริษัทของเฉิน จื้อ จีนเทาเจ้าพ่อสแกมเมอร์ ใต้เงาอำนาจสมเด็จฮุน เซน
หลายคนมองว่า ปัญหาสแกมเมอร์ในกัมพูชา เป็นปัจจัยดึงสหรัฐฯ เข้ามามีบทบาทเป็นคนกลางจับไทย-กัมพูชา มาลงนามในดีลสันติภาพหนนี้
จริงๆแล้ว เรื่องสแกมเมอร์หรืออาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์ สหรัฐฯคว่ำบาตรบุคคลระดับสูงที่ใกล้ชิดกับสมเด็จฮุน เซน มาหลายครั้ง
ตรงกันข้าม “ทรัมป์” กลับมองปัจจัยเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ที่ต้องการถ่วงดุลอำนาจ “ปักกิ่ง” ในกัมพูชามากกว่าปัญหาสแกมเมอร์
หลายคนคงจำได้ ปลายปี 2564 “รัฐบาลวอชิงตัน” สมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ใช้มาตรการเข้มสั่งคว่ำบาตรอาวุธต่อกัมพูชา โดยอ้างมีความกังวลในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทุจริตคอร์รัปชัน และการเข้ามามีอิทธิพลของจีนในกัมพูชา
เวลานั้น มีรายงานว่า สมเด็จฮุน เซน โมโหสั่งกองทัพกัมพูชาทำลายอาวุธจากสหรัฐฯ หรือไม่ก็นำไปเก็บไว้ในโกดัง ไม่ต้องนำออกมาใช้อีก
ล่าสุด ขแมร์ไทมส์ สื่อเขมรอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ทำเนียบขาว ซึ่งมีการเปิดเผยเอกสารสรุปผลงานของประธานาธิบดีทรัมป์ ในการเป็นสักขีพยานดีลสันติภาพ
มีการพูดถึงรัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมประกาศจะยกเลิกการคว่ำบาตรอาวุธต่อกัมพูชา ตอบสนองต่อความมุ่งมั่นของกัมพูชาในการรักษาสันติภาพและความมั่นคง
ทั้งสองประเทศยังตกลงที่จะรื้อฟื้นการฝึกซ้อมทางทหารร่วม ANGKOR SENTINEL ซึ่งจัดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อปี 2560
สมเด็จฮุน เซน มีความช่ำชองเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ จึงกล้าเล่นไพ่สหรัฐ-จีน เพราะอ่านใจทรัมป์ว่า ต้องการดึงกัมพูชาให้ถอยห่างออกจากจีนในระยะนี้
เมื่อรู้ว่าเพลี่ยงพล้ำให้ฝ่ายตระกูล “ฮุน” สม รังสี ในฐานะประธานสภาเพื่อการต่อต้านของกัมพูชา(CNRC) ปฏิบัติหน้าที่ในนาม “รัฐบาลกัมพูชาอิสระ 23 ตุลาคม” จึงออกแถลงการณ์ด่วนถึงผู้นำสหรัฐฯ
ผู้นำรัฐบาลพลัดถิ่น เรียกร้องให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ใช้ความมุ่งมั่นเช่นเดียวกับที่เคยแสดงออกในการต่อสู้กับระบอบเวเนซุเอลาที่ให้การสนับสนุนอาชญากรรม เพื่อต่อกรกับเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติที่ดำเนินการจากกัมพูชา ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของจีน
สม รังสี พยายามยกกรณีของเฉิน จื้อ และกลุ่มบริษัท Prince Group ซึ่งเพิ่งถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร สะท้อนให้เห็นว่าองค์กรอาชญากรรมจีน ได้ฝังลึกอยู่ในระบบการเมืองและเศรษฐกิจของกัมพูชา
เวลาเดียวกัน สมาชิกสภาต่อต้านฯ ยังใช้โซเชียลปลุกระดม “เขมรใน” หมายถึงชาวเขมรที่อาศัยอยู่ในประเทศให้รู้ถึงพฤติกรรม “ขายชาติ” ของรัฐบาลฮุน มาเนต
ดีลสันติภาพที่ลงนามโดยผู้นำกัมพูชานั้น แท้ที่จริงแล้ว เป็นการปกปิดเรื่องการเสียดินแดนให้ไทยในหลายพื้นที่เช่น ภูมะเขือ ปราสาทตาเมือนธม และช่องอานม้า
ฝ่ายแค้นยังให้จับจ้องพฤติกรรมขายชาติของตระกูล “ฮุน” กรณีบ้านเปรยจัน(บ้านหนองจาน) ที่ชาวเขมรกำลังจะถูกบังคับให้ออกจากแผ่นดินของตัวเอง
สรุปว่า เส้นทางฝันของ “สม รังสี” คือ รัฐบาลอิสระที่เป็นจริงบนมาตุภูมิกัมพูชา ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้