
สแกนตัวเต็ง อ๋อย-จาตุรนต์ คนนอกค่าย หนิม-จุลพันธ์ คนในค่าย ชิงดำหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่พ้นต้องถามใจคนชินวัตร
สู้กระแสขาลง ชินวัตรไปต่อ ไม่ออกหน้าแต่ไม่ปล่อยมือ รักษาฐานเสียงเดิม เชื่อเลือกตั้งสมัยหน้า เพื่อไทยไม่สูญพันธุ์
พรรคเพื่อไทย มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 8 คน และในวันที่ 31 ต.ค.2568 จะมีหัวหน้าพรรคคนที่ 9 หลังแพทองธาร ชินวัตร ลาออก ทำให้พรรคต้องจัดประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการ บริหารพรรคชุดใหม่
สุดสัปดาห์ที่แล้ว ทีมงานเพื่อไทยได้เปิดเผยแคนดิเดตหัวหน้าพรรค 4 คนคือ สุทิน คลังแสง ,จาตุรนต์ ฉายแสง, จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
วันก่อน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้บอกนักข่าวว่า หัวหน้าพรรคคนใหม่ จะไม่ใช่คนในตระกูล “ชินวัตร” ซึ่งพิจารณาจากชื่อแคนดิเดตข้างต้น ก็ล้วนเป็น “คนนอก” ทั้งหมด
เอาเข้าจริง พรรคการเมืองที่ชื่อไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย มีจุดแข็งอยู่ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่ว่า จะมีหัวหน้าพรรคชื่ออะไร แต่ผู้กุมอำนาจตัวจริงก็คือคนในตระกูลชินวัตร
อย่างไรก็ตาม เมื่อซาวเสียงใน สส.พรรคสีแดง ปรากฏว่า แคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ จะเป็นการชิงดำกันระหว่าง “จุลพันธ์” และ “จาตุรนต์”
ถ้าวัดเสียงเชียร์นอกพรรคในเวลานี้ “อ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะมีโอกาสเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยมากที่สุด
เหตุปัจจัยที่คนวงนอกเทใจให้ “อ๋อย” มากกว่าสุทิน จุลพันธ์ และชลน่าน
ประการแรก จาตุรนต์ เป็นผู้แทนฯ พรรษาสูงที่สุดคือ เป็นนักการเมืองมา 39 ปี เป็น สส.เขต 5 สมัย และ สส.บัญชีรายชื่อ 2 สมัย
ประการที่สอง จาตุรนต์ เคยเป็นรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย หลังเกิดรัฐประหาร 2549 “ทักษิณ” ลาออกจากหัวหน้าพรรค ในยามวิกฤต จาตุรนต์ได้แสดงภาวะความเป็นผู้นำพรรค จนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ทรท. และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 5 ปี
ประการที่สาม จาตุรนต์ มีความมั่นคงในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่ยอมก้มหัวให้อำนาจเผด็จการ
จุดอ่อนของจาตุรนต์คือ การที่ไม่ใช่คนวงในค่ายชินวัตร แตกต่างจากเพื่อนนักต่อสู้เดือนตุลาอย่างภูมิธรรม เวชยชัย
อีกอย่างหนึ่ง จาตุรนต์ได้พยายามจัดตั้งพรรคใหม่ชื่อ “พรรคเส้นทางใหม่” ด้วยความฝันที่อยากเห็นพรรคการเมืองทางเลือกแบบเดียวกับพรรคอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล
“หนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ 5 สมัย เป็นชื่อที่มีโอกาสเป็นหัวหน้าพรรคมากกว่า “จาตุรนต์” เพราะเชื่อว่า วัฒนธรรมองค์กรพรรคเพื่อไทยจะไม่เปลี่ยน
นั่นคือ เพื่อไทยยังเป็นพรรคที่ขายแบรนด์ “ชินวัตร” และที่ผ่านมา คะแนนนิยมที่เคยได้ 15-18 ล้านเสียง ก็มาจากแบรนด์ “ทักษิณ”
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ไม่ใช่คนเชียงใหม่โดยกำเนิด เติบโตทางการเมืองใต้เงาบิดา-สมพงษ์ อมรวิวัฒน์
30 กว่าปีที่แล้ว “สมพงษ์” หิ้วกระเป๋าจากกรุงเทพฯ มาสมัคร สส.เชียงใหม่ เขต 2 โซน อ.แม่ริม อ.สันทราย อ.แม่แตง อ.เชียงดาว อ.พร้าว อ.ฝาง อ.แม่อาย อ.เวียงแหง และ อ.ไชยปราการ
สมพงษ์บุกเบิกแบรนด์ไทยรักไทย ร่วมกับ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ในโซนภาคเหนือตอนบนมาตั้งแต่ปี 2543
“จุลพันธ์” ได้รับเลือกเป็น สส.เชียงใหม่สมัยแรก ปี 2548 ในนามพรรคไทยรักไทย และเป็น สส.ในเขตที่บิดาเคยมีฐานเสียงอยู่
การเลือกตั้งสมัยที่แล้ว จุลพันธ์ ได้รับเลือก สส.สมัยที่ 5 และเป็น 1 ใน 2 สส.เชียงใหม่ เพื่อไทย ที่ฝ่าพายุสีส้มเข้าสภาฯได้
ในรัฐบาลเศรษฐา และรัฐบาลแพทองธาร จุลพันธ์เป็นรัฐมนตรีช่วยคลังและมีบทบาทสำคัญในการดูแลนโยบายเรือธงของพรรค
แม้วันนี้ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ จะขัดแย้งกับ “เจ๊แดง” เยาวภา ปม “นายกก๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศร แต่ “เสี่ยหนิม” สามารถเคลียร์ใจกับเจ๊แดงได้