svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

เผ่นแล้ว “ชูวิทย์ กุ่ย” ทิ้งนายใหญ่แตกหัก “เกรียง”เลือกน้ำเงินหรือกล้าธรรม

จบแล้วครับนายใหญ่ “ชูวิทย์ กุ่ย” เหลือจะทนเพื่อน “เกรียง” ขอทิ้งเพื่อไทย หวั่นพลังน้ำเงินยึดเมืองอุบลฯ

สุดจะทน ชูวิทย์ กุ่ย แยกทาง เกรียง ทิ้งนายใหญ่ ซุ้มเพื่อไทยอุบลฯ ตัวใครตัวมัน แบรนด์ทักษิณขายยาก จัดหาทรัพยากรเอง

จับตาบ้านใหญ่ตระการพืชผล ชูวิทย์ กุ่ย อดีต สส.อุบลฯ พาลูกสาว สส.สุดารัตน์ ซบบ้านหลังใหม่ "กล้าธรรม" หรือ "ภูมิใจไทย"

ในที่สุด ชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ อดีต สส.จอมเก๋าแห่งเมืองอุบลฯ ได้ตัดสินใจอำลา “นายใหญ่” และพรรคเพื่อไทยไปเรียบร้อยแล้ว

อนาคตของ “ชูวิทย์ กุ่ย” จะไปสังกัดพรรคไหน ต้องรอดูอีกสักระยะหนึ่ง แต่ลูกสาว “กานต์” สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี คงจะยังสังกัดพรรคเดิมไปจนกว่าจะมีการยุบสภาฯ

แหล่งข่าวในเมืองดอกบัวพูดถึงสาเหตุที่ “ชูวิทย์ กุ่ย” ทิ้งค่ายสีแดง เพราะเหลือจะทนกับเพื่อนรัก เกรียง กัลป์ตินันท์ ในฐานะหัวหน้าทีมเมืองอุบลฯ

“กุ่ย-เกรียง” ขัดแย้งกันเรื่อง “ทรัพยากร” เพื่อการเลือกตั้ง เนื่องจากสมัยที่แล้ว บ้านใหญ่ตระการฯ ต้องดูแลตัวเองเป็นหลัก และสมัยหน้า ก็ยังไม่มีความชัดเจน

ชูวิทย์ กุ่ย ขอลิขิตชีวิตตัวเอง

การเลือกตั้ง สส.อุบลฯ ปี 2566 ชูวิทย์ กุ่ย ขอรับผิดชอบ 2 เขตคือ เขต 7 (อ.ศรีเมืองใหม่) ส่งลูกสาวลงสนามเป็นครั้งแรก ส่วนตัวเขาเองย้ายมาเขต 3 (อ.ม่วงสามสิบ)

สุดารัตน์ ไร้ปัญหาเพราะเป็นเขตเลือกตั้งเดิมของพ่อกุ่ย จึงได้เข้าสภาฯ แต่ชูวิทย์ กุ่ยโชคร้าย เจออิทธิฤทธิ์แป้งมันพันล้านสอบตก

นั่นคือ พิมพกาญจน์ พลสมัคร อดีตประธานสภา อบจ.อุบลฯ พรรคไทรวมพลัง สร้างปรากฏการณ์ล้มช้าง “ชูวิทย์ กุ่ย”

เบื้องหลังชัยชนะคือ มาดามกบ-จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล อดีต สส.นครราชสีมา ผู้ก่อตั้งพรรคไทรวมพลัง เครือข่ายแป้งมันพันล้าน

สุดารัตน์ สส.ขวัญใจชาวบ้าน อยู่พรรคไหน คนก็เลือก

เส้นทางสองเกลอเมืองดอกบัว

เกรียง กัลป์ตินันท์ และชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ ได้รับเลือกตั้งเป็น สส.สมัยแรก ปี2538 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากนั้น ทั้งคู่ย้ายไปพรรคความหวังใหม่ และมาจอดป้ายที่ค่ายทักษิณ ตั้งแต่ปี 2544

“เกรียง-กุ่ย” อยู่ในซุ้มวังน้ำเย็น ของเสนาะ เทียนทอง สมัยพรรคความหวังใหม่ เมื่อมาอยู่พรรคไทยรักไทย เกรียงก็ถีบตัวเองไปเป็นคนสนิท “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่ซุ้มวังบัวบาน

สำหรับ ชูวิทย์ กุ่ย เป็นชาว อ.ตระการพืชผล ทำธุรกิจปศุสัตว์ และสวนเสือตระการ โดยเล่นการเมืองท้องถิ่น ก่อนลงสมัคร สส. มีภรรยาคือ จันทนา พิทักษ์พรพัลลภ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลตระการพืชผล

บ้านใหญ่ตระการฯ มีลูกสาว 2 คนคือ “กานต์” สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลฯ เขต 7 และ “เก้า” สุชาวดี พิทักษ์พรพัลลภ ดารานักแสดง

การเลือกตั้งสมัยหน้า “ชูวิทย์ กุ่ย” อาจดันลูกสาวคนเล็ก-สุชาวดี ลงสนาม สส.แทนพ่อก็เป็นได้

น้ำเงินสยายปีก-แดงอับเฉา

จะว่าไปแล้ว ทั้ง “เกรียง-กุ่ย” เป็นผู้ภักดีต่อตระกูลชินวัตร สมัยที่ทักษิณอยู่ต่างแดน โดยสองเกลอพา สส.อีสานไปพบนายใหญ่แถวฮ่องกง และสิงคโปร์อยู่เป็นประจำ

บริบทการเมืองในเมืองอุบลฯ มีการเปลี่ยนแปลงหลังการเลือกตั้งปี 2566 พรรคสีแดงอ่อนแรงลงอย่างมีนัยยะ

เก้าอี้ สส.อุบลฯ ทั้งหมด 11 ที่นั่ง แบ่งออกเป็น 5 พรรคคือ เพื่อไทย 4 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 3 ที่นั่ง ไทรวมพลัง 2 ที่นั่ง ไทยสร้างไทย 1 ที่นั่ง และประชาธิปัตย์ 1 ที่นั่ง

ยุคแบรนด์ทักษิณ แบรนด์เพื่อไทยแข็งแรง ทีม “เกรียง-กุ่ย” จะกวาดไป 8-9 ที่นั่ง เหลือให้ ปชป. 2 ที่นั่ง

สิ่งที่ทำให้ “ชูวิทย์ กุ่ย” วิตกกังวล คงหนีไม่พ้นยุทธศาสตร์ “ตอกเสาเข็ม” ของ เนวิน ชิดชอบ นายใหญ่บุรีรัมย์ ที่ลงมือทำจริงจังเพียงสมัยเดียว ก็ได้ไป 3 ที่นั่ง

เสาเข็มสีน้ำเงินรุ่นแรกในเมืองดอกบัว ประกอบด้วย แนน บุณย์ธิดา สมชัย ลูกสาวอิสสระ สมชัย อดีต สส.อุบลฯ บ้านใหญ่พิบูลมังสาหาร

ตวงทิพย์ จินตะเวช ลูกสาวตุ่น จินตะเวช อดีต สส.อุบลฯ บ้านใหญ่เดชอุดม

สุทธิชัย เจริญเนตร ลูกเขยของอดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีต สส.อุบลฯ บ้านใหญ่ตระการพืชผล คู่แข่งชูวิทย์ กุ่ย

เหนืออื่นใด พรรคไทรวมพลัง ที่ส่งผู้สมัคร สส. เขต 2 คนคือ พิมพกาญจน์ พลสมัคร และ สมศักดิ์ บุญประชม ก็ได้รับเลือกทั้งคู่ กลายเป็น “โมเดลจิ๋วแต่แจ๋ว” เขย่าขวัญพรรคสีแดง

ด้วยเหตุปัจจัยจากพรรคคู่แข่ง บวกกับความเสื่อมถอยของพรรคเพื่อไทย จึงทำให้ “ชูวิทย์ กุ่ย” ตัดสินใจแยกทาง “เกรียง” ขอเลือกทางเดินสายใหม่