“สู้เพื่อเสรีภาพ!” แนะนำเกมยิงแมลงอวกาศ Helldivers 2

ครั้งนี้คอลัมน์ ‘ไฮป์ไปปะ’ จะมาพูดคุยเกี่ยวกับเกมที่ทำให้ผู้เล่นต้องส่งมอบอิสรภาพไปในห้วงอวกาศไกลอย่าง ‘Helldivers 2’ ที่จู่ ๆ ก็มาก่อกระแสให้วงการเกมยิงได้ตื่นตกใจ เกมนี้ทำยอดขายทะลุ 1 ล้านชุด ในเวลา 3 วัน มียอดผู้เล่นผ่านระบบ Steam ทะลุ 400,000 คน ทั้งยังมียอดการเล่นบน PlayStation Network ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้สูงกว่าเกมดังอย่าง Call of Duty กับ Fortnite ไปแล้ว

เห็นเลขสองอยู่ในชื่อเกมแบบนี้แล้ว หลายคนคงจะมองว่าการที่เกมนี้ได้รับความนิยมสูง อาจจะมีเหตุผลมาจากการที่เกมนี้เป็นเกมภาคต่อหรือเปล่า? ซึ่งถ้าให้คำตอบโดยเร็ว ก็พอจะบอกได้ว่าไม่ใช่เสียทีเดียว แต่อาจจะเป็นการดีกว่าถ้าเราไปย้อนดูกันว่า มีที่มาที่ไปอะไรที่ทำให้เกมนี้กลายเป็นกระแสไฮป์ขึ้นมา

ย้อนเวลากลับไปในปี 2015 ทีมพัฒนาเกม Arrowhead Game Studios จากประเทศสวีเดน ได้ปล่อยเกม Helldivers ภาคแรก เกมดังกล่าวเป็นแนวยิงมุมมองจากด้านบนที่เล่นพร้อมกันได้หลายคน ซึ่งตอนแรกเปิดตัวสำหรับ PlayStation 3, PlayStation 4, และ PlayStation Vita ก่อนที่จะมาวางจำหน่ายบนคอมพิวเตอร์ในภายหลัง

Helldiver เจตนาให้ผู้เล่นรวมทีมกันสูงสุด 4 คน ทุกคนต่างรับบทเป็นทหารในยุคอนาคต และมีอุปกรณ์มากมายไว้ใช้ต่อสู้กับฝูงสัตว์ประหลาดอวกาศจำนวนมหาศาล ทั้งแมลงต่างดาว, หุ่นยนต์กระหายเลือด, และสิ่งมีชีวิตโบราณจากห้วงอากาศไกล ซึ่งชัดเจนว่าได้รับอิทธิพลมาจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่องอย่าง Starship Troopers, Star Wars, Terminator มาแบบเต็มไม้เต็มมือ

ตัวเกมให้ผู้เล่นรวมใจกันต่อสู้ แต่ก็อุดมไปด้วยความโกลาหล Helldivers ได้รับความนิยมอย่างเหนียวแน่นจากคอเกมจำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถใช้คำว่า 'แมส' ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ และกลุ่มแฟนคลับของเกม Helldivers ก็ถึงกับแปลกใจ เมื่อทีมพัฒนาเกมได้ประกาศว่า เกมภาคที่สองจะมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะของเกมจากมุมมองด้านบน มาเป็นมุมมองบุคคลที่สาม (และมีบางจังหวะที่เป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง)

แม้ว่าจะเกิดเสียงต่อต้านจากแฟนส่วนหนึ่ง แต่เมื่อ Arrowhead Game Studios เปิดเผยรายละเอียดเกม Helldivers 2 ในปี 2023 แฟนเก่าของเกมก็เข้าใจว่า เกมภาคต่อนั้นยังคงเก็บสิ่งดีงามทุกอย่างจากเกมต้นฉบับเอาไว้ ส่วนการเปลี่ยนมุมมอง ไม่ได้เป็นแค่การทำเพื่อดึงดูดใจคอเกมที่ไม่อินกับเกมแนวมุมมองจากด้านบนเท่านั้น แต่ทีมงานยังตั้งใจจะทำให้เกมมีอรรถรสเหมือนกับภาพยนตร์ที่พวกเขาดึงแรงบันดาลใจมามากขึ้นด้วย

เมื่อเกมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 ผู้เล่นก็ได้พบว่า Helldivers 2 ยังคงมีระบบการเล่นพื้นฐานที่ใกล้เคียงกับภาคเก่าอย่างมาก และการเปลี่ยนแปลงมุมมองยังเพิ่มความกดดันให้กับผู้เล่นได้อีกด้วย เพราะคราวนี้ผู้เล่นมีมุมมองจำกัดกว่าเกมภาคแรกไปมาก แถมยังเพิ่ม 'โมเมนต์' ที่ทำให้เหมือนผู้เล่นเกมได้เป็นตัวละครในภาพยนตร์ไซไฟ เกิดเป็นการแชร์คลิปเกมเพลย์มากมายในสื่อสังคมออนไลน์หลายแพลตฟอร์ม 

ทิศทางการทำตลาดของ Sony Interactive Entertainment ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ผู้จัดจำหน่ายเกมได้ตัดสินใจปล่อยเกมทั้งบนเครื่อง PlayStation 5 และคอมพิวเตอร์พร้อมกัน ทั้งยังเล่นร่วมกันแบบข้ามแพลตฟอร์มได้ตั้งแต่วันแรกที่เกมออกจำหน่าย ทำให้คนเข้าถึงเกม Helldivers 2 เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

Helldivers 2 ยังมีปัจจัยที่ทำให้คนเล่นเกมแนะนำกันแบบแบบปากต่อปาก อาทิ ระบบสกิลของเกมที่หลากหลายพร้อมตอบสนองให้ผู้เล่นหลากสไตล์ ทั้งยังรู้สึกว่าแต่ละสกิลสร้างความแตกต่างได้จริง, ความยากของเกมที่ไต่ระดับได้รสชาติกำลังดี จนผู้เล่นรู้สึกท้าทาย ไม่รู้สึกว่าโดนโกงจนเกินงาม ทำให้การกลับมาเล่นอีกครั้งเพื่อพัฒนาตัวเองให้ผ่านด่านได้นั้นไม่ใช่จุดชวนหัวร้อน, ระบบการซื้อไอเทมภายในเกมด้วยเงินจริงที่ไม่ได้มาแบบบีบบังคับ แต่เป็นตัวเลือกให้ผู้เล่นเข้าถึงได้ ซึ่งหาได้ยากยิ่งในเกมสมัยนี้ 

อีกสิ่งที่กลายเป็นไวรัลในโลกอินเตอร์เน็ต ก็คือวิสัยทัศน์ของผู้บริหารของทาง Arrowhead Game Studio อย่าง โยฮาน พิลส์ติดต์ โดยแทบทุกครั้งที่เขาออกมาแสดงทรรศนะเกี่ยวกับเกม มักจะเป็นข้อความที่คอเกมอ่านแล้วรู้สึกชุ่มชื่นในหัวใจ นับตั้งแต่การที่เขาออกมายอมรับปัญหาของเซิร์ฟเวอร์เกมที่เข้าเล่นได้ยากกว่าที่ควร เนื่องจากมีผู้เล่นเกมเกินกว่าจำนวนที่ประเมินไว้ หรือการแจ้งให้ผู้เล่นทราบว่าไม่อยากใส่ระบบผู้เล่นสู้กันเองเพื่อไม่ให้สังคมในเกมเป็นพิษมากเกินไป

หรืออย่างตอนที่มีผู้ใช้งาน X (หรือ ทวิตเตอร์) ได้ออกมาบ่นว่า “ทุกคนที่อวยเกม Helldivers 2 ต้องพอแล้วนะ พวกนายทำให้ฉันอยากซื้อเกมตอนแกลบเลยเนี่ย” แล้วผู้บริหารท่านดังกล่าวก็เข้ามาตอบว่า “ถ้าคุณไม่มีเงิน ไว้ค่อยซื้อทีหลังก็ได้ ระหว่างนั้นพวกเราก็จะทำเกมให้สนุกคุ้มค่ากับการรอคอยจนกว่าเซิร์ฟเวอร์ของเราจะสามารถรับปริมาณคนเล่นไหว คือในฐานะ CEO เนี่ยนะ ผมก็อยากให้เกมทำกำไรมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่ถ้าคุณเอาเงินก้อนสุดท้ายมาจ่ายเงินแล้วติดแหง่กในคิวเข้าเล่นเกม ผมคงแบบ (อีโมจิหัวใจสลาย)”

ด้วยการสนทนาในลักษณะนี้เองก็ยิ่งทำให้หลายคนที่ไม่เคยติดตามเกมของ  Helldivers 2 มาก่อน หันมาสนใจ แล้วรู้สึกยินดีที่จะสนับสนุนทีมงานนี้ไปในที่สุด

การมาถึงของ Helldivers 2 ยังส่งผลดีข้ามไปถึงฝั่งภาพยนตร์อีกด้วย เนื่องจากหลายคนที่เล่นเกมแล้วก็เกิดความอารมณ์ค้าง แล้วไปซื้อหรือเช่าดูภาพยนตร์ Starship Troopers ที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญของเกม Helldivers 2 จนทำให้กระแสของภาพยนตร์กลับมาพุ่งสูงในโลกอินเตอร์เน็ตอีกด้วย

ถ้าดูทิศทางการทำงานของ Arrowhead Game Studios ในตอนนี้ ก็เชื่อได้ว่าตัวเกมจะได้รับการสนับสนุนไปอีกระยะใหญ่แบบเดียวกับที่พวกเขาเคยทำไว้กับเกม Helldivers ภาคแรก และน่าจะเกาะกระแสไฮป์นี้ไปได้อีกระยะใหญ่เลยทีเดียว