svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Animals

"แมวดาว" เจ้าตัวน้อยน่ารัก กับบทบาท "นักล่า" ผู้ควบคุมประชากรสัตว์ป่าอื่นๆ

"แมวดาว" เจ้าตัวน้อยหน้าตาน่ารัก แต่จริงๆ กลับมีความเป็น "นักล่า" อย่างเต็มเปี่ยม เรื่องเล่าสัตว์โลก โดย "Nation STORY" ขอพาไปรู้จักสิ่งมีชีวิตเล็กๆ นี้ กับภัยคุกคามสำคัญของพวกเขา

ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ (26 มี.ค. 67) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง จังหวัดยะลา ได้รับแจ้งชาวบ้านที่ออกไปหากบ ในพื้นที่อำเภอเบตง ว่าพบ "ลูกแมวดาว" จำนวน 4 ตัว บริเวณลำธารแห่งหนึ่ง ภายหลังตัวแม่แมวดาวถูกสุนัขไล่กัด จนหายเข้าไปในป่าลึก ทิ้งลูกๆ 4 ตัวไว้ ชาวบ้านเกรงว่าลูกแมวดาวจะได้รับอันตราย เพราะมีสุนัขยังวนเวียนอยู่ในบริเวณนั้นจำนวนมาก จึงช่วยลูกแมวดาวกลับมาที่บ้าน และแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปรับสัตว์ป่าตัวน้อยไปดูแล และปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

นายสมชาย ศิริอุมากุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติบางลา จึงเดินทางไปรับแมวดาว พร้อมบอกว่า จากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าวไม่พบร่องรอยของแม่แมวดาวเลย จึงต้องนำกลับมาที่สำนักงานฯ เพื่อดูแลไว้ก่อน หลังตรวจสอบตามร่างกายลูกแมวดาวทั้ง 4 ตัวอย่างละเอียด พบว่ามีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีบาดแผลตามร่างกาย สามารถกินนมสำหรับลูกแมวดาว ที่สามารถทดแทนนมแม่ของน้องได้แล้ว

เครดิต : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

"ตอนนี้ลูกแมวดาวก็กินเก่ง สุขภาพแข็งแรง ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม แมวดาวนี้ไม่สามารถเลี้ยงได้ เพราะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และเป็นสัตว์กินเนื้อ เมื่อโตเต็มวัยจะมีความดุร้ายมาก" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติบางลา กล่าว

เคระดิตภาพ : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง ได้ส่งมอบลูกแมวดาวทั้งสี่ให้กับเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี นำไปสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าโคกไม้เรือ จังหวัดนราธิวาส เพื่อดูแลต่อไป

นี่เป็นเรื่องราวของ 4 ลูกแมวดาว ที่พลัดหลงกับแม่ของเขา เคราะห์ยังดีที่มีชาวบ้านช่วยเหลือไว้ แล้วนำส่งเจ้าหน้าที่ จากนี้ ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะเติบโตอย่างแข็งแรง และได้กลับสู่ธรรมชาติ

"Nation STORY" ขอพาไปรู้จัก แมวดาว สิ่งมีชีวิตเล็กๆ น่ารัก แต่มีสัญชาตญาณของ "นักล่า" นี้ มีบทบาทอย่างไรในธรรมชาติ แล้วปัจจุบัน พวกเขาต้องเผชิญกับภัยคุกคามอะไรบ้าง 

เครดิตภาพ : เฟซบุ๊กเพจ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน - Kaeng Krachan National Park
ดูเผินๆ เหมือนแมว แต่แท้จริงถือเป็น "เสือ"


หากใครเคยเห็น หรือได้ดูรูป "แมวดาว" (อังกฤษ : LEOPARD CAT) มองเผินๆ อาจจะคิดว่าเป็นแมวชนิดหนึ่ง แต่ความจริงแล้วเขาถือเป็น "เสือ" ขนาดเล็ก ในสกุล Prionailurus ที่มีขนาดโดยรวมคล้ายกับแมวบ้าน แต่ขนาดใหญ่และมีความเพรียวกว่า

ลักษณะกายภาพของแมวดาว

  • ขนมีสีซีดสีน้ำตาลอ่อน บริเวณท้องสีขาว มีลายคล้ายดอกกุหลาบบริเวณลำตัวและหาง 
  • ส่วนปลายหางเป็นปล้อง 
  • มีแถบดำสี่แถบพาดขนานจากหน้าผากไปยังบริเวณคอ 
  • มีหัวขนาดเล็ก ปากสั้น และหูกลม

วัยเจริญพันธุ์ 

  • แมวดาว เริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุ 2 ปี ตั้งท้องนาน 70 วัน ออกลูกครั้งละ 2-3 ตัว

"แมวดาว" เจ้าตัวน้อยน่ารัก กับบทบาท "นักล่า" ผู้ควบคุมประชากรสัตว์ป่าอื่นๆ
แหล่งที่อยู่อาศัย


อ้างอิงข้อมูลจากเฟซบุ๊กเพจ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พบว่า "แมวดาว" มีนิสัยชอบนอนในโพรง แหล่งอาศัยอยู่ในป่าดิบชื้น ป่าดิบเขตร้อน และพื้นที่เพาะปลูก ป่าผลัดใบเขตร้อน และป่าสน เชิงเขาเทือกเขาหิมาลัย ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร

พวกเขากระจายตัวอยู่ทั่วไปในเอเชีย ภาคตะวันออกของอัฟกานิสถานและภาคเหนือของปากีสถาน และชายฝั่งทางตอนเหนือของอินเดีย พม่า ลาว ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม ไต้หวัน สุมาตรา ชวา บาหลี เกาะบอร์เนียวเนปาล เกาหลี กัมพูชา บางส่วนของฟิลิปปินส์ และภาคตะวันออกของจีน

สำหรับประเทศไทย เราสามารถพบแมวดาวได้ตามป่าเกือบทั่วทุกภาค 

"แมวดาว" เจ้าตัวน้อยน่ารัก กับบทบาท "นักล่า" ผู้ควบคุมประชากรสัตว์ป่าอื่นๆ
พฤติกรรมปรับตัวเก่ง - ออกล่าแบบฉายเดี่ยว - ไม่เล่นเหยื่อแบบแมวบ้าน

เจ้าเสือตัวเล็กนี้ ได้ชื่อว่า เป็นสัตว์ป่าที่ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม และการเสื่อมโทรมของป่าได้ดี รวมถึง ปรับตัวให้สามารถอาศัยในป่าได้หลากหลายชนิด เช่น ป่าดิบ เขาป่าเบญจพรรณ พื้นที่เกษตรกรรม บางครั้งอาศัยอยู่ใกล้พื้นที่ชุมชน 

สอดคล้องกับข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน - Kaeng Krachan National Park ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ "แมวดาว" ไว้อย่างน่าสนใจ โดยระบุว่า แมวดาวเป็น "นักล่าขนาดเล็ก" ที่มีความคล่องแคล่วว่องไว ปรับตัวเก่ง ชอบออกล่าแบบบินเดี่ยว 

ส่วนการ "ออกล่า" ของแมวดาว เขาป็นสัตว์ป่าที่หากินเวลากลางคืน ไม่ว่าจะเป็นบนดินและต้นไม้ เห็นได้จากบางครั้งก็กระโจนจากต้นไม้เพื่อจับสัตว์กิน นอกจากปราดเปรียวและปีนต้นไม้เก่งแล้ว ยังว่ายน้ำเก่งด้วย โดยอาหาร ได้แก่ พวกหนู สัตว์ฟันแทะ กบ เขียด นก และแมลง

เรียกได้ว่า แมวดาว เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่มีหน้าที่ในการควบคุมประชากรสัตว์ป่าอื่นๆ ไม่ให้มีมากจนเกินไปนั่นเอง

นอกจากนี้ หากเทียบนิสัยระหว่าง "แมวบ้าน" กับ "แมวดาว" แล้ว แมวดาวไม่มีนิสัยเล่นกับเหยื่อ เขาจะจัดการเหยื่อแล้วกินทันที ในขณะที่ "เจ้านายสี่ขา" ร้องเมี้ยวๆ ที่มนุษย์เลี้ยงไว้ที่บ้าน เรามักเห็นน้องโยน หรือไล่ต้อนเหยื่อไปมา ไม่ว่าเหยื่อนั้นจะขิต(ตาย)ไปหรือยังก็ตาม

"แมวดาว" เจ้าตัวน้อยน่ารัก กับบทบาท "นักล่า" ผู้ควบคุมประชากรสัตว์ป่าอื่นๆ
น่ารักแค่ไหน ก็ห้ามจับไปเลี้ยง

สำหรับสถานภาพของแมวดาว ด้วยความที่เขาปรับตัวให้อาศัยในป่าได้หลากหลายชนิด ทำให้องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature) หรือ ไอยูซีเอ็น (IUCN) จัดสถานภาพอยู่ในสภานภาพกลุ่มที่มีความกังวลน้อยที่สุด (Least Concern-LC) หมายถึง ชนิดพันธุ์ที่ยังไม่อยู่ในภาวะถูกคุกคาม และพบเห็นอยู่ทั่วไป 

จากที่กล่าวมา (หรือเห็นรูปก็ตาม) แมวดาว เป็นสัตว์ป่าที่หน้าตาน่ารัก อย่างไรก็ดี เขามีสถานภาพทางกฎหมาย เป็น "สัตว์ป่าคุ้มครอง" ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ดังนั้น ห้ามล่าเขาไปเลี้ยงเด็ดขาด
"แมวดาว" เจ้าตัวน้อยน่ารัก กับบทบาท "นักล่า" ผู้ควบคุมประชากรสัตว์ป่าอื่นๆ
ภัยคุกคามสำคัญ คือ "มนุษย์"

ที่ผ่านมา เราคงเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับการจับกุมพรานลอบฆ่าสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือขบวนการลักลอบล่าสัตว์ป่า ในเขตอุทยานฯ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า "สัตว์ป่า" หลายชนิดมักถูกล่า หรือได้รับผลกระทบจากน้ำมือมนุษย์ 

"แมวดาว" เองก็ด้วย ภัยคุกคามที่สำคัญของพวกเขาก็คือ มนุษย์ ในอดีตคนล่าแมวดาวเพื่อเอาหนัง พอตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ก็มีการล่าและค้าขายอวัยวะสัตว์ป่า รวมถึง การลักลอบจับแมวดาวจากป่า เพื่อนำไปเป็น "สัตว์เลี้ยง" และผสมพันธุ์กับแมวบ้านหลายพันธุ์ เพื่อให้เกิดแมวลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ที่สวยงาม 

ซึ่งการกระทำแบบนี้ เป็นการทำให้พันธุกรรมของแมวดาวอ่อนแอลง และตัดโอกาสแมวดาววัยเจริญพันธุ์ที่จะผสมพันธุ์ให้กำเนิด "ลูกแมวดาว" ทายาทเผ่าพันธุ์ตัวเอง สุดท้ายแล้ว อาจจะทำให้ "แมวดาวสายพันธุ์แท้" สูญพันธุ์ไปในที่สุด

"แมวดาว" เจ้าตัวน้อยน่ารัก กับบทบาท "นักล่า" ผู้ควบคุมประชากรสัตว์ป่าอื่นๆ
"แมวดาว" เป็นสิ่งมีชีวิตประดับป่าที่สวยงาม และมีคุณค่า มีบทบาทในฐานะผู้ควบคุมจำนวนประชากรสัตว์ป่าอื่น ๆ ไม่ให้มีมากจนเกินไป เขาจึงควรได้อยู่กับป่า ทำหน้าที่ของตัวเอง คงจะดีกว่าถูกล่าให้มาอยู่กับมนุษย์

ดังคำกล่าวที่เพจ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน - Kaeng Krachan National Park ได้เคยบอกไว้ว่า "ยังไงป่าก็เลี้ยงสัตว์ป่าได้ดีกว่ามนุษย์"

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก :
เฟซบุ๊กเพจ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน - Kaeng Krachan National Park , กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช , ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
สวนสัตว์เชียงใหม่
https://theopener.co.th/node/1155
https://chm-thai.onep.go.th/