ตร.เตรียมส่งสำนวนคดีอาวุธสงคราม-อั้งยี่ "จักรภพ" ให้อัยการ 22 เม.ย.นี้

19 เมษายน 2567 ที่กองบังคับการปราบปราม นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลของ นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ต้องหาในคดี “ร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นอั้งยี่” พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมตามนัดหมาย 

นายจักรภพ กล่าวว่า สำหรับการเดินทางมาในวันนี้ เพื่อเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ในคดีที่ตนตกเป็นผู้ต้องหาคดี “ร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นอั้งยี่” ซึ่งทราบว่า ภายในวันจันทร์ที่ 22 เมษายนนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะรวบรวมสำนวน ส่งให้กับทางอัยการพิจารณา 

“ทั้งนี้ยังคงยืนยันว่า ตนไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา และ มั่นใจในความบริสุทธิ์ใจของตน นับจากวันแรกจนถึงวันนี้ตนก็ยังยืนคำเดิมว่าตนไม่ได้ทำผิดดังกล่าว” นายจักรภพ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับการแจ้งข้อหา นายจักรภพ คดี “ร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นอั้งยี่” ของนายจักรภพ ซึ่งเป็นอดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่กำกับดูแลสื่อมวลชนภาครัฐ ในรัฐบาลนายสมัครนั้น 

เกิดขึ้นภายหลังวันที่ 22 พ.ค. 2557 ที่มีการรัฐประหารในประเทศไทย โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. และได้มีการออกคำสั่งที่ 49/2557 เรียกให้นายจักรภพ ไปรายงานตัว แต่นายจักรภพที่เดินทางออกนอกประเทศ ตั้งแต่ช่วงเดือน เมษายนร 2552 ไม่ได้ไปตามคำสั่งดังกล่าว ศาลทหารจึงออกหมายจับข้อหาฝ่าฝืนการไปรายงานตัว และข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง 

และในวันที่ 7 ธันวาคม 2560 ศาลอาญาได้ออกหมายจับ ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็น "อั้งยี่"

 

กระทั่งวันที่ 28 มีนาคม 2567 ที่นายจักรภพ เดินทางกลับถึงประเทศไทย และลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ได้คุมตัวนายจักรภพ จากสนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางมายังกองปราบปราม เพื่อสอบปากคำ คดีในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นอั้งยี่ รวมทั้งยังถูกกล่าวหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

หลังพบว่า มีความเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามจำนวนมาก ซุกในบ่อน้ำพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจากการตรวจสอบอาวุธที่ยึดได้ พบมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์คดีทางการเมือง เมื่อปี 2557 เช่น ชิ้นส่วน หรือซีเรียลนับเบอร์ของอาวุธ

ภายหลังนายจักรภพได้รับการประกันตัว ในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งกำหนดหลักทรัพย์เป็นเงิน 200,000 บาทต่อคดี โดยไม่มีเงื่อนไข และจะต้องมารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนครั้งต่อไป ในวันที่ 22 และวันที่ 23 เมษายน 2567