มีกระแสข่าวตกอับ ไม่มีงานทำ ?
ตุ๊ก : "คนเรานี่นะ สมองมันต้องมีพุทธิปัญญา วิจารณญาณ คนไม่เชื่อเขาก็แก้แทน (ช่วงนี้ทำอะไรบ้าง) ไม่ทำอะไร ทำใจ ตกอับจะไปไหนรอด ไปไหนก็ต้องใช้เงิน"
เอาตรง ๆ ไม่ได้ลำบากเลย ?
ตุ๊ก : "แต่ก็ไม่ได้หรูหรา ต้องบอกนิดนึง ไม่เคยของานใครทำ เขาต้องดูความเหมาะสม ไม่ทำให้คนลำบาก แต่ถ้ามีปาร์ตี้ขอไป แต่งานไม่ขอ"
พอมีประเด็นขึ้นมา ลูกชายว่ายังไง ?
แฟร้งค์กี้ : "เราเห็นอยู่ครับ"
ตุ๊ก : "ไม่เห็นมันพูดอะไรเลย วันนั้นเดินเข้าร้านของพ่อเขา แล้วเขาเป็นเชฟขายพิซซ่า เราเดินเข้าไป คุณญาณี ขอตรวจกระเป๋าหน่อย เฮ้ย…มันเล่นมุกอะไร เรานัดเพื่อนไว้ข้างใน มันบอกขอดูกระเป๋าตังหน่อย มีเงินหรือเปล่า เห็นข่าวลงว่าตกอับ"
ย้อนกลับไปตอนพ่อ-แม่เลิกกัน เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ตอนนั้นรู้ด้วยตัวเองหรือคุณแม่บอก ?
แฟร้งค์กี้ : "ไม่รู้เลย เป็นเทอมแรกที่ไปโรงเรียนประจำที่โน่น พวกยูไม่อยากบอก เพราะกำลังปรับตัวกัน"
ตุ๊ก : "พี่ขอไว้ หนังสือพิมพ์อะไรอย่าเพิ่งลง ขอให้พี่เป็นคนแรกที่พูดกับลูก"
แฟร้งค์กี้ : "ยูไปรับที่สนามบิน แล้วถามว่าพ่อไปไหน ทำไมคนขับรถเป็นคนใหม่ แม่บอกว่าเขาเสียแล้ว พอกลับมาบ้านถามว่าแด๊ดอยู่ไหน เขาบอกว่าเลิกกันแล้ว เลยบอกโอเค ไม่เป็นไร"
ตุ๊ก : "เขามาตบบ่า แฟร้งค์ก็รู้แหละ"
แฟร้งค์กี้ : "ตอนนั้นมี๊เริ่มใช้ชีวิตแบบห่างกันนิดนึง มันเป็นเพื่อน"
ตุ๊ก : "อยู่กันคนละห้อง ดูกันคนละช่อง กิจกรรมร่วมกันไม่มี"
แฟร้งค์กี้ : "มันเป็นเรื่องของคนสองคน แฟร้งค์โอเค แฟร้งค์มีพ่อกับแม่อยู่แล้ว"
พ่อ-แม่ ไม่ได้โกรธกัน แค่เปลี่ยนสถานะ ?
ตุ๊ก : "โกรธ ไม่พูดกับเขาเป็นปี ใครจะไม่โกรธ มันต้องมีเหตุมีประเด็น แต่กว่าเราจะทำใจได้ ขอใช้เวลาปีนึง ช่างเถอะ เขาก็เป็นพ่อของลูกเรา คุยกันแบบเพื่อน จบ"
แฟร้งค์กี้ : "เขาเคยพูดกับแฟร้งค์ ถึงแม้พ่อกับแม่เลิกกันก็ไม่ปล่อยให้พ่อลำบาก ก็จะช่วยังไงก็เป็นพ่อของลูก"
เรามีโมเมนต์อยากให้พ่อ-แม่ กลับมาเป็นเหมือนเดิมมั้ย ?
แฟร้งค์กี้ : "ไม่ครับ แฟร้งค์ว่าต่างคนต่างอยู่ก็แฮปปี้ ได้อยู่ทั้งสองบ้าน ได้เงินเดือนสองที่ ได้ของขวัญสองชิ้น สบาย"
ผู้หญิงแบบไหนที่จะอยู่กับลูกเรา ?
ตุ๊ก : "เขาเป็นคนเลือกเอง เพราะเราไม่ได้อยู่กับเขาจนตาย มีความสุขก็อยู่กันไป ไม่มีก็ไม่ต้องอยู่"
ที่มา : รายการคุยแซ่บShow