"คม ชัด ลึก" : ตู้เอทีเอ็มโดนแฮ็ก! สูญ 12 ล้านบาท

ปริญญา หอมเอนก ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ม.รังสิต กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว โดยส่วนตัวแล้วไม่ตกใจ หรือประหลาดใจแต่อย่างใด เพราะในประเทศอื่นก็เกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก

กรณีนี้ที่เกิดขึ้นเป็นภัยของธนาคารโดยตรง ประชาชนที่ฝากเงินไว้กับธนาคารไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เพราะคนร้ายไม่ได้ใช้ระบบสแกมมิ่ง สแกมเมอร์ ที่จะมีผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง เนื่องจากคนร้ายจะก๊อบปี้ข้อมูลจากแถบแม่เหล็กบัตรเอทีเอ็ม แล้วไปทำบัตรปลอมก่อนจะนำไปกดเงิน

แต่กรณีที่เกิดขึ้นคนร้ายทำอะไรบางอย่างที่ตู้เอทีเอ็ม แล้วส่งผลให้เงินในตู้ไหลออกมา เป็นการขโมยเงินจากตู้เอทีเอ็มโดยตรง ความเสียหายก็เกิดกับธนาคารโดยตรง ไม่เกี่ยวกับเงินฝากของประชาชน

คาดว่ามิจฉาชีพแก๊งนี้เพิ่งจะเข้ามาเมืองไทย แล้วมาดูลาดเลาหาตู้เอทีเอ็มที่อยู่ในที่เปลี่ยว ดึกๆ ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน แล้วใช้กรรมวิธีบางอย่างในการเปิดตู้เอทีเอ็ม แต่ไม่ขอเปิดเผยวิธี ซึ่งปกติคนที่เปิดตู้เอทีเอ็มได้จะเป็นคนที่นำเงินไปเติม เมื่อคนร้ายเปิดตู้เอทีเอ็มได้ก็ทำอะไรบางอย่างกับระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในตู้เอทีเอ็ม เพื่อให้คอมพิวเตอร์เข้าใจว่า มีคนมากดเงิน ระบบก็จะสั่งจ่ายเงินออกมา

ปกติการกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มในแต่ละครั้งไม่สามารถกดเป็นล้านบาทได้ ดังนั้น คนร้ายก็จะต้องทำหลายครั้ง หลายเครื่อง เมื่อรวมๆ กันทำให้เสียหายเป็นจำนวนมาก

การกระทำลักษณะนี้เคยมีการโชว์ให้เห็นกันในกลุ่มแฮ็กเกอร์ในต่างประเทศ โดยเรียกว่า เอทีเอ็ม แจ็กพอต วิธีการหนึ่งในการแฮ็ก คนร้ายจะใช้วิธีปล่อยมัลแวร์ เป็นโปรแกรมที่ไม่หวังดีในกลุ่มไวรัส ด้วยช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ส่วนการที่คนร้ายใส่บัตรเข้าไปในช่องเสียบบัตรนั้น ส่วนตัวเข้าใจว่า เป็นการทำให้เงินไหลออกมา

จากที่ธนาคารออมสินชี้แจงว่า ธนาคารใช้ตู้เอทีเอ็มจาก 3 ยี่ห้อ คาดว่า มีอยู่ยี่ห้อเดียวที่มีปัญหา ตรงนี้ผมเข้าใจว่า มีปัญหาตรงซอฟต์แวร์ที่อยู่ในวินโดวส์ เมื่อซ่อมเสร็จก็ใช้งานได้เหมือนเดิมตามปกติ ตัวฮาร์ดแวร์ไม่เป็นอะไร โดยปกติทางธนาคารจะติดตั้งระบบแอนตี้ไวรัสอยู่แล้ว แต่เหตุที่เกิดขึ้นคนร้ายใช้วิธีแฮ็กที่ตู้เอทีเอ็มโดยตรง และทำทีละตู้

ภัยที่เกิดขึ้นดังกล่าว ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจ ไม่ต้องกังวล เพราะคนร้ายเอาเงินไปจากตู้เอทีเอ็ม ไม่ได้เอาเงินไปจากบัญชีของประชาชน เงินของประชาชนยังอยู่ครบ ตู้ไหนที่ทางธนาคารยังแก้ไขไม่ได้ ทางธนาคารก็ปิดไปก่อน ลูกค้าก็ไปกดที่ตู้อื่นได้ ซึ่งก็ทราบว่า ถ้าไปกดที่ตู้ธนาคารอื่นก็ไม่คิดค่าธรรมเนียม โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องสังคายนาตู้เอทีเอ็ม